ฉันย้ายมาเป็นพลเมืองของซูริคได้สามปีกว่า วันนี้มุมมองและความสัมพันธ์กับเมืองใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ที่มีประชากร1.5 ล้านคนนี้เปลี่ยนไปจากสมัยที่เป็นนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนชั่วครั้งชั่วคราวอย่างสิ้นเชิง จึงขอเล่าถึงเสน่ห์เมืองเก่าอายุร่วมพันปีนี้ด้วยสายตาของผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้ กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ประชุม ทำงาน ช้อปปิ้ง ตัดผม นวด และอื่นๆอย่างที่คนที่นี่เขาทำกัน รวมทั้งบอกใบ้ความลับที่นักท่องเที่ยวไม่รู้ เพราะเมืองเก่าซูริคคือที่ที่คนที่นี่ใช้ชีวิตประจำวันอยู่จริง มิได้เป็นแค่จุดท่องเที่ยวไว้ขายนักเดินทาง

zurich-old-town-grossmunsterตัวเมืองเก่าซูริคมีขนาดไม่ใหญ่มาก นักท่องเที่ยวเดินชมวันเดียวก็ทั่วหมด แต่คนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จริงๆกลับไปได้ไม่มีเบื่อเพราะตามซอกเล็กตรอกน้อยมีอะไรๆให้ค้นหาได้ไม่รู้จบ ร้านเก่าๆที่อยู่มานานไม่มีสาขาที่อื่น อย่างไรเราก็ต้องไปซื้อของหรือใช้บริการอยู่เรื่อยๆอย่างไม่มีทางเลือก ส่วนร้านใหม่ๆก็มีเปิดชวนให้อยากไปสำรวจอยู่ตลอดเวลา คนที่อยู่ซูริคแม้จะอยู่รอบนอกตัวเมืองจึงต้องมีเรื่องให้เข้าไปในเมืองเก่าอยู่บ่อยๆจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

zurich-old-town-2เมืองเก่านี้มีแม่น้ำ Limmat ไหลผ่านกลาง ทั้งสองฝั่งมีสถานที่สำคัญต่างๆในประวัติศาสตร์ และอาคารเก่าที่ปัจจุบันใช้งานจริงเป็นที่อยู่อาศัย ร้านรวงหรือสำนักงาน ฝั่งตะวันออกมีถนนคนเดินสายหลักคือถนน Niederdorf ซึ่งต่อกับถนน Oberdorf ขนานไปกับแนวแม่น้ำ ชาวเมืองมีชื่อเล่นให้ถนนสองสายที่ต่อกันนี้รวมๆไปว่า Dörfli ช่วงกลางวันถนนนี้จะมีทั้งนักท่องเที่ยวและคนเมืองเดินช้อปปิ้ง พอกลางคืนร้านค้าปิดหมด บรรยากาศจะเปลี่ยนมาคึกคักไปด้วยคนที่มากินอาหารและดี่มตามบาร์ต่างๆ เป็นความคึกคักที่น่ารักกำลังดีด้วยอารมณ์สังสันทน์ชิลล์ๆมากกว่าปาร์ตี้วุ่นวาย เป็นที่ๆคนในเมืองเองก็ชอบมานัดเจอกันง่ายๆสบายๆ

zurich-old-town-5ส่วนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำมีถนน Bahnhofstrasse ที่ขนานยาวจากทะเลสาบไปจนถึงสถานีรถไฟหลัก บริเวณตรอกซอกซฮยเล็กๆมากมายระหว่างแม่น้ำกับถนนบาห์นฮอฟนี่แหละคือย่านที่ฉันชอบ เพราะนอกจากจะมีบรรยากาศน่ารักและวุ่นวายน้อยกว่าถนนนีเดอร์ดอฟแล้ว ยังมีร้านประจำหลายร้านที่ต้องไปบ่อยๆ ชีวิตในเมืองของฉันจึงมักวนเวียนอยู่แถวนี้

เวลามีใครมาเยี่ยมที่ซูริคจุดที่ฉันมักจะนัดให้มานัดเจอกันจะเป็นด้านหน้าโบสถ์ Fraumünster ซึ่งมีสะพาน Münsterbrücke อยู่ข้างหน้าพอดี จากจุดนี้จะมองเห็นแลนด์มาร์คสำคัญๆของซูริคเกือบทั้งหมด เช่นโบสถ์ Grossmünster ที่บางคนเรียกชื่อล้อว่า Salt & Pepper เพราะมียอดโดมคู่สูงเหมือนขวดเกลือกับพริกไทยตั้งอยู่ ต่ำลงมาตรงริมน้ำคือ Helmhaus หรือโบสถ์ Wasserkirche ซึ่งถือเป็นจุดต้นกำเนิดเมืองซูริค (วันนี้ขออนุญาตยังไม่เล่าประวัติศาสตร์) ถัดไปคือ Rathaus หรือ City Hall หรือศาลาว่าการเมือง มองไปทางใต้เห็นทะเลสาบซูริค เรียกว่ามายืนตรงนี้หมุนรอบตัวแล้วถ่ายรูปซูริคได้ครบแลนด์มาร์คทั้งเมือง

โบสถ์เฟรามึนชเตอร์นี้เป็นจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชอบแวะชม แต่สำหรับฉันที่นี่มีของชอบส่วนตัวที่ต้องแวะเข้าไปชมเรื่อยๆอย่างไม่เบื่อ นั่นคือหน้าต่างกระจกสเตนกลาสห้าบานที่เป็นฝีมือของ Marc Chagall ศิลปินคนโปรดที่ทำขึ้นมาเมื่อปี 1970  ปกติกระจกสเตนกลาสในโบสถ์มักจะมีรูปแบบเหมือนๆกันคือหนึ่งช่องใช้กระจกหนึ่งสี แล้วเรียงต่อกันเป็นรูปต่างๆเหมือนจิ๊กซอว์ แต่กระจกที่นี่ผสมกันระหว่างการสร้างภาพโดยการต่อกระจกกับการที่ชากาลล์วาดรูปลงไปบนกระจกเลย กระจกทั้ง 5 มีธีมสีต่างกันไป เป็นเหตุการณ์ในไบเบิ้ล 5 เรื่อง กระจกนี้ดูแล้วรู้ทันทีเลยว่าเป็นฝีมือของมาร์ค ชากาลล์ เพราะเหมือนกับภาพวาดดังๆทั้งหลายของเขาที่มีสไตล์เป็นของตัวเองไม่เหมือนใคร ฉันชอบที่มันดูไม่โบราณเหมือนกระจกที่โบสถ์อื่นๆ ดูร่วมสมัย สดใส จะว่าไปแล้วที่ชอบก็คงเป็นเพราะฉันปลื้มงานของเขามากกว่าศิลปินอื่นๆนั่นแหละ

จากโบสถ์เฟรามึนชเตอร์ฉันชอบเดินทะลุไปตามซอยเล็กซอยน้อยระหว่างถนนบาห์นฮอฟกับริมแม่น้ำ ตามตรอกเหล่านี้มีร้านเสื้อผ้ารองเท้ายี่ห้อที่ฉันชอบหลายร้าน คนมาเดินแถวนี้มักเพลินไปกับการดูร้านและตึกสวยๆ แต่มักจะพลาดไม่เห็นว่ามีสิ่งหนึ่งที่ควรหยุดชมที่นี่ นี่แหละ คือความลับในเมืองเก่าอย่างแรกที่ฉันมักจะพาคนคอเดียวกันไปชม

zurich-old-town-roman-bath-1zurich-old-town-roman-bath-2บนนถนนคนเดิน Storchengasse ตรงจุดก่อนถึงหน้าโรงแรม Storchen นั้น มีตรอกแคบๆอยู่ระหว่างตึกที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะไม่เห็นเลย   ตรอกนี้มีชื่อว่า Thermengasse มองเข้าไปเห็นเป็นซอกมืดๆทะลุอีกซอยด้านหลังที่อยู่ระดับสูงกว่า จึงมีขั้นบันไดอยู่ที่ปลายตรอก   มองเข้าไปแล้วจะไม่มีใครคิดอยากจะเดินเข้าไปหรอก เพราะมันดูไม่มีอะไร แต่จงเดินเข้าไป และก้มหน้าดูพื้นที่เดินให้ดี พื้นหินก้อนโตๆที่ปากทางนั้นถูกแทนที่ด้วยตะแกรงเหล็ก เมื่อไปยืนแล้วมองทะลุตะแกรงลงไปจะเห็นว่าข้างล่างคือซากหินที่เป็นรากฐานโบราณของอะไรบางอย่าง ทีนี้จงเงยหน้าขึ้นมองกำแพง จะเห็นว่ามีแผ่นป้ายแสดงรูปวาดและคำอธิบายเป็นภาษาเยอรมัน ป้ายบอกว่า นี่คือโรงอาบน้ำของโรมันโบราณ ซากด้านล่างคือพื้นของเดิมๆเลยอายุนับพันปีที่เคยจุดไฟรมไอน้ำให้ห้องซาวน่าโบราณอุ่น ภาพวาดแสดงให้เห็นว่าตรอกที่เรายืนอยู่นั้นมีผังของห้องอาบน้ำต่างๆอย่างไร ทั้งห้องร้อนห้องเย็นห้องพักผ่อนห้องน้ำ ไม่น่าเชื่อเลยว่าที่ๆเรายืนอยู่นั้นเคยมีคนโบราณมาอบตัวอาบน้ำณ.จุดเดียวกัน แถมซากอิฐหินยังเป็นของเดิมๆเสียอีก แต่ที่น่าทึ่งกว่าคืออีกฝั่งกำแพงนั้นคือฝาอพาร์ตเม้นท์ที่คนอยู่เป็นบ้านจริงๆ ในปัจจุบัน ฉันเคยยืนๆอ่านป้ายอยู่มีคุณป้าเปิดประตูบ้านออกมา คือเราไม่ชินว่าจุดโบราณสถานที่เรามายืนชมอยู่นี้เป็นบ้านที่คนเดินเข้าออกทุกวัน ฉันนิยมมากที่ฝรั่งเขาทำให้ชีวิตปัจจุบันกลมกลืนไปกับประวัติศาสตร์ อยู่ด้วยกันได้โดยไม่เสียหาย และไม่มีเวลามาแบ่งกั้น ไม่ใช่ขีดวงว่านี่คือจุดท่องเที่ยวโบราณต้องกั้นรั้วต้องเก็บเงิน ส่วนที่อยู่คนโน่นไปอยู่นอกเมืองเก่า ตรอกอาบน้ำโรมันที่ซูริคนี้คือตัวอย่างที่ดีว่า เมืองนี้คือเมืองเก่าที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นเมืองเก่าที่คนยุคใหม่ใช้ชีวิตร่วมกันไปอย่างเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ

old-crows-zurichในย่านนี้มี“ที่ประจำ” ของฉันหลายที่อยู่ซึ่งทำให้ฉันต้องเข้ามาเมืองเก่าบ่อยๆ ที่แรกคือบาร์ที่ฉันโปรดที่สุดในซูริค Old Crow อยู่บน Schwanengasse แค่ก้าวเข้าไปก็รู้แล้วว่า “ตัวจริง”มากๆ ร้านเล็กๆเพดานเตี้ยๆ โต๊ะไม้สีเข้ม ม้านั่งยาวไม้กรุผนังแบบผับสลับกับโซฟาหนัง กำแพงหินก้อนโตแขวนกรอบรูปและป้ายต่างๆ มีเทียนจุดวอมแวมเหมือนถ้ำที่คนวงในเท่านั้นแอบมาเสพน้ำทิพย์กัน บาร์เท็นเดอร์ท่าทางเชี่ยวชาญแน่นไปด้วยความรู้และประสบการณ์สองสามคนยุ่งกับการผสมเหล้าหลังเคาน์เตอร์บาร์ที่เรียงแน่นไปด้วยสารพัดขวดเหล้า บาร์นี้เขาภูมิใจนำเสนอว่ามีเหล้าหายากสารพัดโดยเฉพาะวิสกี้ และมีรายการเหล้าถึง 1,400 ชนิด ฉันเคยไปแล้วคุยกับบาร์เท็นเดอร์เรื่องเหล้าจินถูกคอ เขาบอกจะให้ดื่มจินอันนึงที่หายากมากเขาเสาะหาจนไปบังเอิญเจอในร้านขายเหล้าเล็กๆในที่อัมสเตอร์ดัม เจ้าของร้านเก็บไว้ในกรุเป็นสิบปี เขาเลยเหมามาหมด 6 ขวด แค่เรื่องจินของคนดัทช์และเบลเยี่ยมก็คุยกันได้เป็นเรื่องเป็นราว และที่เขาเอามาให้ชิมก็อร่อยสมคำคุย จึง ซตพ ได้ว่าร้านนี้ไม่โฆษณาเกินจริง

อีกบาร์หนึ่งอยู่ถัดไปที่ถนน Renweg ในบูทีคโฮเท็ลเก๋ Widder อันนี้ทันสมัยหน่อย จึงมีคนทำงานเก๋ๆแต่งตัวเปรี้ยวๆมากัน ดูเป็นชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ ที่ฉันชอบเพราะมีเปียโนแจ๊ซสดและค็อกเทลแปลกๆอร่อยมากมาย บรรยากาศคล้ายบาร์ในกรุงเทพ ให้มาเวลาคิดถึงบ้านzurich-old-town-1

 

เดินย้อนอีกนิดไต่ขึ้นไป Lindenhof จุดชมวิวที่สูงเหนือริมฝั่งแม่น้ำ จะเห็นเมืองเก่าซูริคฝั่งตรงข้ามแบบพาโนรามาไปจนถึงทะเลสาบ และเห็นตึกมหาวิทยาลัยซูริคตั้งเด่น ที่ที่ปั้นเจ้าของรางวัลโนเบลออกมามากมายกว่ามหาวิทยาลัยใดๆ ไอน์สไตน์ก็เคยสอนอยู่ที่นี่ด้วย ลินเดนฮอฟนี้เป็นจุดที่ฉันต้องพาทุกคนที่มาหาขึ้นมาถ่ายรูป เพราะมันถ่ายออกมาสวย จนเพื่อนทุกคนพอเห็นรูปของกันและกันแล้วจะบอกว่า นี่เธอพาทุกคนมาจุดเดียวกันไม่เปลี่ยนเลยนะ อ้าวก็ยุติธรรมไง

ใครที่มาลินเดนฮอฟมักจะเดินย้อนกลับไปทางเดิม อยากกระซิบว่าให้เดินไปตามขั้นบันไดเล็กๆตรง Fortunagasse ที่ทอดลงไปทางแม่น้ำ พอลงถึงระดับล่างแล้วให้เดินเลียบแม่น้ำตรงถนนนั้นชื่อ Schipfe เพราะตึกเก่าตรงนี้น่ารักไม่เหมือนจุดอื่นตรงที่มันเงียบๆ เป็นออฟฟิศบ้างร้านขายของบ้างแต่ไม่พลุกพล่าน เหมือนเราได้ค้นพบอะไรที่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่มา และมีชมรมพายเรือริมน้ำ Limmat Club มีเรือจอดอยู่และร้านอาหารให้สมาชิกใช้บริการ เป็นจุดเล็กๆในกลางเมืองเก่าที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นย่านอยู่อาศัยล้วนๆ

สำรวจริมน้ำแล้วจะไปโผล่ที่ถนนบาห์นฮอฟหน่อยก็ได้ ถนนนี้เป็นสายช้อปปิ้งหลักของเมือง ร้านทุกยี้ห้อดังๆต้องมาเรียงกันอยู่บนสายนี้ ตึกตลอดสายเป็นตึกเก่าทั้งหมด ดูดีๆมีเรื่องราวและประวัติศาสตร์มากมายแต่ทุกตึกทุกชั้นถูกใช้งานเป็นร้านค้า สำนักงาน ธนาคาร คลีนิก สารพัด คนซูริคมากมายเรียกถนนนี้ว่าที่ทำงาน ดังนั้นต่อให้มีนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันมากขนาดไหน ที่นี่ก็ยังให้เราเห็นวิถีชีวิตคนเมืองที่ใช้ชีวิตประจำวันอยู่จริงๆzurich-old-town-11

 

 

ฉันชอบมาถนนบาห์นฮอฟนี้ในวันพฤหัสบดีที่สามของเดือนพฤศจิกายน เพราะเป็นวันแรกที่เขาเริ่มจุดไฟ Lucy light อันเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส ถนนทั้งสายจะประดับไปด้วยไฟสีทองพาดผ่านเหมือนม่านมุ้งกางอยู่บนฟ้าในหน้าหนาว วันนี้จะเป็นวันที่ร้านเปิดให้ช้อปปิ้งดึกกว่าปกติ และออกมาร่วมกันฉลอง มีการแจกกลูไวน์ร้อนๆบ้าง ขนมบ้าง และมีเวทีร้องรำทำเพลงกัน คึกคักแต่ไม่วุ่นวาย ดูอบอุ่นแบบเมืองเล็ก หลังจากนั้นก็จะเริ่มมีตลาด Christmas Market มาเปิดตามจุดต่างๆในบริเวณบาห์นฮอฟและย่านเมืองเก่าไปจนถึงก่อนวันคริสต์มาส ช่วงนี้ถึงจะหนาวแต่ฉันก็มักหาโอกาสแวะเวียนมาดื่มกลูไวน์หรือยืนกิน Raclette ชีสย่างร้อนๆเยิ้มๆบนมันฝรั่งตามซุ้มตลาด ตรงลาน Werdmühleplatz จะมี Singing Christmas tree ต้นคริสต์มาสร้องเพลง ไม่ใช่เอาลำโพงไปใส่ในต้นคริสต์มาสให้มันร้องเพลง แต่เขาจัดเวทีเรียงเป็นทรงต้นคริสต์มาสสีเขียวแล้วให้เด็กๆใส่หมวกแดงไปยืนแทรกในต้นไม้แล้วร้องเพลงประสานเสียงกัน น่ารักมากๆsanta-claus-zurich

ข้ามแม่น้ำไปเมืองเก่าอีกฝั่งหนึ่ง ถนนนีเดอร์ดอฟสายหลักนี้มีทั้งร้านค้าร้านอาหารมากมาย นักท่องเที่ยวชอบมาเดินกันแต่ชาวเมืองก็มาจับจ่ายใช้สอยและใช้ชีวิตแถวนี้กันบ่อยๆเพราะมีร้านโปรดของทุกคนอยู่หลายร้าน เช่น Café Schober ซึ่งเป็นร้านเบเกอรี่ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่ควรมาชิม ฉันพาสาวๆคนไหนมาทีไรก็กรี๊ดกร๊าดติดใจกันทุกคน ร้านน่ารักมากๆ อยู่ในตึกเก่า เปิดประตูเดินเข้าไปเห็นเคาน์เตอร์มีขนมนมเนยสีสันสดใสอยู่ในตู้แก้วและขวดโหลรอบตัวเต็มไปหมด บรรยากาศตื่นตาตื่นใจชวนถ่ายรูปที่สุด พอเดินทะลุเข้าไปอีกห้องจะมีโต๊ะเก้าอี้ให้สั่งกาแฟและเค้กมานั่งทานได้ ด้านหลังเป็นคอร์ทยาร์ดบรรยากาศดีเอาไว้นั่งหน้าร้อน แต่จุดโปรดของฉันจริงๆคือห้องสีแดงชั้นสอง ขึ้นบันไดไม้โบราณไปแล้วจะมีห้อง 2 ห้อง ห้องโปรดของฉันคือห้องขวามือ ผนังกรุผ้าสีแดงก่ำเฉดเดียวกับบรรดาโซฟาและเก้าอี้หลุยส์ตัวจิ๋วเปรี้ยวล้ำ เหมือนเป็นห้องที่สาวๆมานั่งกอซซิปกุ๊กกิ๊กกัน เปรี้ยวที่สุด

ตามซอยเล็กซอยน้อยที่แยกออกไปนี้มีร้านโลคอลน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านขายหมวก ร้านขายเสื้อผ้าสุนัข ร้านทำรองเท้าเย็บมือ ร้านขายเครื่องประดับ ร้านขายหนังสือท่องเที่ยว แต่ละร้านเล็กๆและเจ้าของเปิดเองขายเองคนเดียวทำทุกอย่างด้วยคุณภาพและใจรัก ลูกค้ามักจะเป็นขาประจำที่อยู่ในเมืองมากกว่านักท่องเที่ยว ร้านแบบนี้แหละที่ฉันชอบ

ร้านโปรดสุดๆของฉันซึ่งคาดว่าไม่มีร้านใดในโลกเหมือนอย่างนี้อีกแล้วก็ซ่อนตัวอยู่แถวนี้เหมือนกัน ร้านนี้ฉันถือว่าเป็นความลับสุดยอดเหนือฟ้าอัน หนึ่งของซูริคที่ฉันจะพาคนที่เป็นคอเรื่องงานตกแต่งบ้านสถาปัตยกรรมและของดีไซน์สวยๆเท่านั้นไปดู และบอกได้เลยว่าคนที่เที่ยวตามไกด์บุ๊คจะไม่มีทางค้นพบร้านนี้ เอ๊ะแล้วนี่จะบอกดีมั้ยนี่

zurich-neumarkt-1ร้านนี้ชื่อ Neumarkt 17 หน้าร้านแคบๆมีดิสเพลย์เฟอร์นิเจอร์ให้เห็นเป็นเก้าอี้แค่ตัว 2 ตัวเท่านั้น แลดูเหมือนร้านขายเฟอร์นิเจอร์เล็กๆธรรมดาๆ ตรงหน้าประตูร้านมีแท่งปูนสูงขึ้นมาระดับเอว หากไปก้มมองดูจะเห็นว่ามันเป็นปล่องกลวงให้เรามองลงไปถึงชั้นใต้ดินข้างล่างและมีกระจกเงารองรับอยู่เหมือนกับจะสะท้อนแสงแดดจากหน้าร้านลงไปส่งให้ชั้นใต้ดินสว่าง จากตรงนี้เราจะเริ่มรู้สึกแล้วว่าร้านนี้น่าจะมีอะไรที่ไม่ธรรมดา

พอเข้าไปข้างในก็จะรู้สึกทันทีว่าสนุกแน่เพราะร้านเหมือนกับเขาวงกต มีซอกเล็กบันไดน้อยเล่นระดับสลับซับซ้อน ซอยแบ่งเป็นห้องเล็กๆ แต่ละห้องจัดเฟอร์นิเจอร์แสดงไว้เหมือนเป็นห้องใดห้องหนึ่งในบ้าน เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสวยมากๆ ทุกชิ้นดีไซน์คิดมาเฉียบคม การจัดวางก็สวยจนอยากรื้อบ้านทำใหม่ แต่สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดและเรียกเสียงวิ้วว้าวได้ตลอดคือเราไม่รู้เลยว่าห้องแต่ละห้องมันจะนำพาไปสู่อะไร เหมือนความลับของแต่ละห้องถูกเผยขึ้นทีละห้องๆ จนกระทั่งเดินมาถึงส่วนหลังสุดของร้าน ความตื่นตาตื่นใจก็มาถึงจุดสูงสุดเพราะว่าพื้นปูนของแต่ละชั้นเปลี่ยนเป็นพื้นตะแกรงเหล็กโปร่ง มองเห็นทะลุไปทุกๆชั้นตลอดทั้ง 4 หรือ 5 ชั้น แต่ละชั้นแบ่งเป็นส่วนๆจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างน่านั่งเล่นนอนเล่น เป็นไอเดียให้อยากไปตกแต่งบ้านตามนั้นบ้าง ชั้นบนสุดมีหลังคาเป็นกระจกใสรับเอาแสงแดดเข้าเต็มๆ มีหมู่โซฟานั่งเล่นจัดวาง ถ้ามานั่งจิบไวน์ชมแสงจันทร์เหนือหลังคาที่นี่ตอนกลางคืนคงจะได้บรรยากาศเกินบรรยาย แต่ที่สุดยอดของสุดยอดก็คือชั้นล่างสุด เพราะใต้พื้นตะแกรงนั้นเป็นน้ำทั้งหมด ฉันทึ่งมากเมื่อรู้ว่าส่วนน้ำนี้ที่จริงคือสระว่ายน้ำโบราณ และสาเหตุที่เขาออกแบบส่วนนี้แบบนี้ก็เพื่ออนุรักษ์สระว่ายน้ำเอาไว้ เก๋ไก๋ได้ใจสุดๆ เป็นร้านที่มาแล้วเกิดแรงบันดาลใจสูงสุดไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ตาม

ไม่ไกลจากร้านนี้มีโบสถ์สำคัญอีกแห่งคือโบสถ์ Predigerkirche อายุร่วม 700 ปีและเป็นอาคารที่มีความสูงที่สุดในซูริค แต่ความสำคัญสำหรับฉันนั้นคือเป็นที่ๆไปประจำเดือนละครั้งด้วยจุดมุ่งหมายทางจิตวิญญาณส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา ทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนเวลาทุ่มครึ่งภายในโบสถ์นี้จะมีคอนเสิร์ตโดยคนสวิส 4 คนที่เป็นครูสอนร้องเพลงและนักร้องระดับมืออาชีพ เป็นการร้องแบบที่เรียกว่า Atonal Improvisation คือการร้องสดที่ไม่มี”โทน”หลักและไม่มีเนื้อร้อง ใช้เสียงที่เปล่งออกมาตามแต่ความรู้สึกจะพาไป เป็นดนตรีแนวใช้เสียงบำบัดและเข้าถึงจิตวิญญาณ ไม่ใช้เครื่องดนตรีหรือใช้น้อยมากเพื่อเคาะจังหวะหรือให้เสียงที่แปลกออกไป ไม่ใช่ดนตรีประกอบการร้อง ฉันมารู้จักศิลปะแบบนี้ก็ที่นี่ และเคยเข้ารับการบำบัดด้วยดนตรีโดยครูคนที่แสดงนี้ 2 ครั้ง ขอบอกว่ามันได้ผลมาก พอรู้ว่าครูจัดแสดงทุกเดือนจึงมาชมประจำ ความพิเศษที่ไม่เหมือนใครคือผู้ชมจะนั่งล้อมเป็นวงกลมตรงกลางโบสถ์ด้านหน้า ผู้แสดง 4 คนจะอยู่ใจกลางวงนั้น ขณะแสดงอาจจะเดินไปรอบๆผู้ชม หรือเดินไปสุดประตูโบสถ์ไกล เพื่อให้เกิดเอฟเฟ็คของเสียงระยะไกลใกล้ เวลาชมทุกครั้งฉันจะต้องหลับตาฟัง มันเป็นเสียงที่อัศจรรย์มาก เข้าไปทะลวงถึงในเม็ดเลือดในเซลล์สมองก็ว่าได้ เคยน้ำตาไหลพรากๆตลอดคอนเสิร์ต หลังคาโบสถ์สูงลิ่วมันให้เสียงก้องกังวานที่ชวนขนลุกมาก   สิ่งสำคัญคือคอนเสิร์ตนี้ไม่ขายบัตร ใครอยากชมก็เดินเข้ามาได้เลย ชมจบแล้วถ้าอยากจะหยอดเงินลงกล่องเป็นน้ำใจเท่าไรก็ได้ หรือจะไม่ให้เลยก็ได้ นี่คือความลับของซูริคที่ฉันอยากจะบอกให้ทุกๆคนรู้ ให้มันเลิกเป็นความลับของคนในกลุ่มแคบๆ   เพราะมันดีมากๆจนอยากแบ่งให้ทุกคนได้มาชมด้วยกัน

isebahnli-zurichไม่ไกลโบสถ์มีร้านอาหารหรูร้านหนึ่งที่เจ้าของร้านกล้าประกาศว่าอร่อยที่สุดในซูริค แต่เป็นร้านที่เล็กมากจนมองหาแทบไม่เจอและเขาไม่โฆษณาเลย คนจึงไม่ค่อยรู้ว่ามีของดีซ่อนอยู่ตรงนี้ มีโต๊ะไม่กี่โต๊ะ คืนหนึ่งขายแค่นั้นจบ ไม่มีเมนูไม่มีราคา เข้าไปนั่งแล้วเขาจะบอกด้วยปากเปล่าว่าวันนี้มีอะไรเสิร์ฟ เราก็สั่งทั้งคอร์สหรือจะเลือกบางจานก็ได้ ราคาค่อยมารู้กันตอนจ่ายเงิน ขอบอกว่าอร่อยมากสมคำคุย และอยากจะเก็บชื่อร้านไว้เป็นความลับตลอดกาลเพราะแค่นี้ก็จองโต๊ะยากมากๆแล้ว แต่บอกก็ได้ ห้ามบอกต่อละกัน ร้านที่เป็นความลับอร่อยเหนือฟ้านี้ชื่อ Wystube Isebähnli

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว บอกความลับของเมืองเก่าซูริคอีก 2-3 อย่างก็แล้วกัน กิจกรรมอีกอย่างที่คนสวิสชื่นชอบและทำดีมากคือศูนย์สุขภาพที่บำบัดด้วยน้ำทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสปาหรือฮัมมัม หลายที่อยู่บนเขาหรือแหล่งที่มีน้ำแร่ แต่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้ว่าใจกลางเมืองเก่าซูริคตรงถนนคนเดินนี่แหละมีที่เด็ดมากอยู่แห่งหนึ่ง Migros Fitnesspark Hamam ดูจากด้านนอกตึกจะไม่มีทางรู้เลยเพราะเหมือนสำนักงานอะไรสักอย่าง ต้องเข้าตึกไปข้างในจึงจะเห็นรีเซพชั่น ตรงนั้นก็ยังดูธรรมดาๆ แต่พอเข้าไปเห็นบ่อน้ำและบรรดาห้องซาวน่าห้องอบตัวทั้งหลายแล้วนั่นแหละจะงงว่าอะไรจะหลบซ่อนอยู่ลึกลับใต้ตึกได้มิดชิดอย่างนี้ เงียบข้างนอกแต่ข้างในนี่คนใช้บริการเพียบ มีแต่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่มาใช้บริการอย่างเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ใครไปเที่ยวซูริคหากไม่มีเวลาออกไปศูนย์สุขภาพบนเขาหรือนอกเมือง ขอบอกว่าเจียดเวลาที่จะเดินช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินสักสามชั่วโมงแล้วมุดแวบเข้ามาที่นี่ รับรองว่าจะได้ประสบการณ์เที่ยวที่ไม่เหมือนใครแน่นอน

zurich-villa-toblerเวลาฉันพาใครเดินเที่ยวเมืองเก่า มักจะพาวนไปจบที่ Villa Tobler ตึกโบราณอายุ 160 ปีสไตล์นีโอคลาสสิคที่มีระเบียงเหล็กดัดสวยงามและสวนเล็กๆที่เปิดให้คนเข้าไปเดินเล่นนั่งเล่นได้ฟรีๆ วิลล่านี้อยู่ท่ามกลางตึกเก่าส่วนที่เป็นอพาร์ตเม้นท์อยู่อาศัย จึงเงียบสงบและเหมือนเป็นวิลล่าเศรษฐีส่วนตัว ใครไม่รู้ก็จะไม่กล้าเดินเข้าไป แต่จริงๆเขาเปิดให้คนเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจในสวนที่แต่งไว้สวยงามได้ฟรีๆ แถมมีส่วนสนามให้เด็กเล่นด้วย ตึกนี้เป็นตึกอนุรักษ์และปัจจุบันเป็นสมบัติของเมืองซูริค ในอดีตส่วนใต้ดินเคยถูกใช้เป็นโรงละคร ปัจจุบันก็ใช้เป็นโรงละครเล็กๆสำหรับศิลปะการแสดงร่วมสมัย ชื่อ Theater Winkelwiese ฉันเคยเห็นรูปส่วนเวทีและที่นั่งในห้องใต้ดินก่ออิฐแดงเหมือนอยู่ในห้องเก็บไวน์ใต้ถุนตึก เก๋ไก๋ได้อารมณ์มาก ตั้งใจว่าจะหารายการแสดงดีๆแล้วเข้าไปชมสักที จะได้ชมความงามของวิลล่าด้านในด้วย ส่วนตอนนี้ก็ได้แต่พาใครๆไปถ่ายรูปในสวนสวยด้านนอก เวลาเดินผ่านเข้าประตูไป ทุกคนมักถามว่า เข้าไปได้เหรอ นี่มันบ้านใคร

ฉันมักจะยิ้มๆตอบไปทุกทีว่า “พามาเที่ยวสวนสวยของวิลล่าโบราณ เข้าฟรี เพราะบ้านฉันเอง ฮะๆๆๆเปล่าหรอกล้อเล่น เข้ามาเถอะจะเล่าให้ฟัง นี่แหละความลับอีกอย่างหนึ่งของเมืองเก่าซูริค”zurich-lake-summer-fah


ร้านน่าซื้อในเมืองเก่าซูริค

Neumarkt 17 ที่อยู่ Neumarkt 17, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.neumarkt17.ch

Changemaker ร้านคอนเซ็ปสโตร์ของใช้ประจำวัน ที่อยู่ Marktgasse 10, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.changemaker.ch

Limited Stock ร้านคอนเซ็ปสโตร์ของเก๋ๆหายาก ที่อยู่ Spiegelgasse 22, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.limited-stock.com

Travel Book Shop ที่อยู่ Rindermarkt 20, 8025 ที่อยู่ เว็บไซต์ www.travelbookshop.ch


ร้านอร่อยและบาร์เด็ด

Wystube Isebähnli   ที่อยู่ Froschaugasse 26, 8001 ZÜRICH เว็บไซต์ www.isebaehnli.com

Café Schober ที่อยู่ Napfgasse 4, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.conditorei-cafe-schober.ch

Swiss Chuchi ร้านอาหารสวิสและฟองดูที่อร่อยที่สุดในเมืองเก่า ที่อยู่ Rosengasse 10, 8001 Zürich

เว็บไซต์ www.swiss-chuchi.ch

Chez Marion ร้านอาหารฝรั่งเศส อร่อยนั่งสบาย มีส่วนบาร์ที่เครื่องดื่มอร่อยทุกอย่าง ที่อยู่ Mühlegasse 22, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.chezmarion.ch

Old Crow ที่อยู่ Schwanengasse 4, 8001 Zürich เว็บไซต์ http://oldcrow.ch

Widder ที่อยู่ Rennweg 7, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.widderhotel.com

Cabaret Voltaire บาร์เก่าแก่แต่อารมณ์คึกคักเด็กมาก เป็นทั้งบาร์และห้องจัดแสดงงานอาร์ต บางคืนมีแจซสด ที่อยู่Spiegelgasse 1, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.cabaretvoltaire.ch

Andorra บาร์ง่ายๆนั่งคุยสบาย แน่นทุกวัน  ที่อยู่ Münstergasse 20, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.andorra.ch


นอนในเมืองเก่า

Hotel Helmhaus โรงแรม 4 ดาวในตึกเก่าโบราณแต่ตกแต่งแบบมินิมันทันสมัย ที่อยู่ Schifflände 30, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.helmhaus.ch

Widder บูทีคโฮเท็ล 5 ดาว ที่อยู่ Rennweg 7, 8001 Zürich เว็บไซต์ www.widderhotel.com


ความลับอื่นๆ

Migros Fitnesspark Hamam Munstergasse ที่อยู่ Blaufahnenstrasse 3, 8024 Zürich เว็บไซต์ www.fitnesspark.ch/muenstergasse

Villa Tobler ที่อยู่ Winkelwiese 4, 8001 Zürich

หมายเหตุ รายการกินเที่ยวช้อปและความลับของเมืองเก่าเมืองซูริคยังมีอีกเพียบ ขอเก็บไว้โอกาสหน้าหรือมาให้พาเที่ยวเลยแล้วกัน

zurich-old-town-sunset-bridge

1 COMMENT

  1. Unseen Zurich ที่หลายคนไม่รู้ว่าอยู่ใกล้ๆนี่เอง

Comments are closed.