วันนี้จะเขียนรีวิวเรื่องสกีที่ Val d’Isere และ Tignes ในฝรั่งเศส เพราะเดี๋ยวนี้คนไทยนิยมสกีมากขึ้น จะได้เป็นข้อมูลไว้เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆค่ะ

เมืองสกีของฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อมีหลายแห่งเช่น Val d’Isere, Chamonix, Courchevel หลังจากที่ไปสกีมาหลายประเทศในยุโรปเช่นออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ปีนี้จึงขอสำรวจดูสิว่าฝรั่งเศสจะแตกต่างไปอย่างไร

เมืองที่เลือกไปพักคือ Tignes des Brevieres เป็นบ้านพักแบบชาเล่ต์สี่ชั้นขนาดหกห้องนอนใหม่เอี่ยม มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการไปสกีและการพักผ่อนอย่างครบถ้วน เช่นบ่อจากุซซี่น้ำร้อนบน ระเบียงกลางแจ้งพร้อมชมวิวภูเขา สกีทั้งวันเมื่อยๆลงมาแช่น้ำร้อนจิบแชมเปญคลายกล้ามเนื้อสบายอย่าบอกใครค่ะ

ส่วนลานสกีนั้นต้องบอกว่าเป็นเน็ตเวิร์คที่กว้างใหญ่ข้ามเขาติดๆกันไปหลายลูก มีชื่อเรียกว่า Espace Killy ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของฝรั่งเศส มีให้สำรวจทั้งสัปดาห์ก็ไม่เบื่อ ประกอบด้วย 2 หมู่บ้านคือ Tignes และ Val d’Isere ซึ่งสามารถสกีไปถึงกันได้และมีกระเช้าและลิฟต์เชื่อมต่อถึงกันหมด สำหรับระดับความยากง่ายในการสกีของภูเขานั้นมีทั้งแบบง่าย ปานกลางและยาก มีให้เลือกเหมาะกับทุกคนและมีโรงเรียนให้คนที่หัดเล่นเลือกเรียนได้ด้วย และสิ่งที่ชอบของการสกีที่ฝรั่งเศสก็คืออาหารอร่อยค่ะ

แต่สิ่งที่ไม่ค่อยชอบก็คือที่นี่มีนักท่องเที่ยวเยอะ ยิ่งช่วงวันหยุดปิดเทอมภาคกีฬาหน้าหนาวผู้ปกครองจะพาเด็กๆมาเรียนสกีกันเยอะ ดังนั้นเวลาสกีต้องระวังเด็กเล็กๆบนเขามากๆ อีกอย่างที่แปลกใจคือตามจุดต่างๆบนเขานั้นมีบาร์และร้านอาหารให้แวะพักชิลๆน้อยมาก ส่วนมากร้านอาหารจะอยู่ในหมู่บ้านที่ต้องสกีลงมาข้างล่าง ไม่เหมือนสวิตเซอร์แลนด์ที่อยู่ตรงไหนบนเขาก็สามารถแวะพักละเลียดชมวิวได้ มีแม้กระทั่งเบาะนอนวางอยู่บนยอดเขาให้เกลือกกลิ้งจิบไวน์อุ่นๆพักขาระหว่างวัน

ถ้าให้เปรียบเทียบ สกีฝรั่งเศสนั้นกว้างขวางสำรวจไปได้ทั่ว มีโรงเรียนสอนที่เหมาะกับคนที่หัดเรียนเบื้องต้น หรือนักท่องเที่ยวที่อยากลอง ในเมืองอาหารอร่อย มีอะไรให้คนที่ไม่สกีทำระหว่างวันเช่น Shopping ร้านหรู เหมาะกับครอบครัวและกลุ่มคนกว้างๆ

สำหรับออสเตรียนั้นเน้นอารมณ์ปาร์ตี้และสกีแบบเป็นกีฬาจริงจัง เคยไปมาแค่ที่ St Anton แต่มีความรู้สึกว่าสโลปจะยากกว่าสนุกท้าทายกว่าและเนื่องจากอยู่สูงโอกาสที่หิมะใหม่ๆจะมีก็มาก สภาพลานและเนินเขาจึงเรียกว่าพร้อมให้ลุยแบบเอ็กตรีมสปอร์ตเต็มที่ ในตัวเมืองไม่ค่อยใหญ่แต่ตกเย็นทุกร้านอาหารและบาร์จะเน้นเปิดเพลงดังแข่งกันกระหึ่มตั้งแต่ร้านที่อยู่บนเขาไล่ลงมาถึงในหมู่บ้านเลย คนจะดื่มปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน เรียกว่า Apres ski เหมาะกับคนโสดอายุน้อยและกลุ่มเพื่อน ส่วนอาหารเป็นแนวเยอรมันง่ายๆไม่หวือหวามาก

ส่วนสกีที่สวิตเซอร์แลนด์จะเน้นคุณภาพเป็นเลิศทุกอย่าง ภูเขานั้นไม่ต้องห่วงเพราะพื้นที่อยู่สูง มีทุกรูปแบบเหมาะกับความยากง่ายทุกคนอยู่แล้ว แต่ที่ดีมากคือทั้งเก้าอี้ลิฟท์กอนโดล่าจะเป็นของใหม่คุณภาพดีนั่งสบาย บางตัวมีเบาะอุ่นร้อนๆให้ด้วย คุณภาพครูที่สอนนักเรียนเล่นสกีก็ดีกว่าเพราะเค้าทำอะไรทำจริงจัง บนเขาไม่ว่าอยู่จุดไหนก็มีที่ให้พักชมวิว บาร์ร้านอาหารและห้องน้ำสะอาดทุกที่เสมอ เรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นแทบทุกจุดที่กอนโดล่าจอดจะมีกล่องกระดาษทิชชูให้ดึงใช้ได้ตามใจ ก็มันหนาวน้ำมูกก็ไหลไง พอเกิดอาการขึ้นมาหันไปก็คว้าทิชชูได้เลย ใจดีรอบคอบมาก ลานสกีแต่ละที่นับว่าใหญ่เมื่อเทียบกับปริมาณคนที่ไป จึงไม่หนาแน่นเหมือนฝรั่งเศส สบายกว่า ส่วนอาหารนั้นตามสไตล์สวิสคือเมนูไม่ตื่นเต้นอะไรมาก แต่คุณภาพเป็นเลิศ ข้อเสียคือสกีที่สวิตเซอร์แลนด์นี้ราคาแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้านเยอะมาก ไปหนึ่งสัปดาห์ครอบครัวสามคนรวมค่าโรงแรมค่าอาหารค่าสกีก็ตกแสนกว่าบาทค่ะ ถ้าเป็นประเทศเพื่อนบ้านจะไม่ถึงแสน

จริงๆปีนี้ตั้งใจจะไปทดลองที่ Dolomites ของอิตาลี แต่เนื่องจากยอดเขาสูงไม่มากจึงได้ข่าวว่าต้องวัดดวงเรื่องคุณภาพของหิมะกันพอควร เลยยังไม่มีอิตาลีมาเปรียบเทียบกับสวิตฯออสเตรียและฝรั่งเศส ถ้าได้ไปจะมารีวิวให้ฟังใหม่นะคะ 🙂

 

NO COMMENTS