ใครๆก็พูดกันว่าคนสวิสเย็นชา ไม่เป็นมิตร โหด ดุ เอาง่ายๆอย่างเช่นการขอวีซ่าเข้าประเทศซึ่งอยู่ในกลุ่มเชงเก้น สมมติว่าเราจะไปเที่ยวหลายประเทศในเชงเก้น เราจะไปขอวีซ่าที่ประเทศไหนก็ได้ กฎมีว่าอยู่ประเทศไหนนานสุดก็ควรไปยื่นขอที่สถานทูตของประเทศนั้น แต่ในความเป็นจริงเมื่อได้วีซ่ามาแล้วเราก็เข้าออกประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้หมด ทีนี้ความยากง่ายของการอนุมัติวีซ่าของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ทริปเดียวกันสมมติเราอยู่ฝรั่งเศสกับสวิตฯเป็นเวลาเท่ากัน หลายคนจะไปขอวีซ่าที่ฝรั่งเศสเพราะง่ายกว่า การให้วีซ่าของสวิตฯนี่บอกไว้เลยว่าไม่มีเผื่อขาดเผื่อเกิน เช่นถ้าในตั๋วเครื่องบินเราระบุว่าไปวันที่ 1 กลับวันที่ 12 เขาก็จะออกวีซ่าให้พอดีเป๊ะกับวันเข้าวันออก ถ้าเกิดตกเครื่องวันที่ 12 วีซ่าก็ขาด อันนี้ฉันไม่รู้เขาแก้ปัญหาอย่างไร แต่พูดเล่นๆกันเรื่อยว่า ใช้วีซ่าสวิสนี่ห้ามตกเครื่องเลยนะเธอ

swiss-flag-churchความวิตกที่ตามมาจากการย้ายถิ่นฐานเข้าประเทศสวิตฯนี่จึงคือเรื่องการอนุมัติเอกสารให้เข้าพำนักในประเทศ ก่อนจะย้ายนั้นฉันขอวีซ่าเข้าสวิตฯหลายหนมากๆ รู้ดีเรื่องความเคร่งและเป๊ะของเอกสาร แต่ไม่เคยเลยที่จะเจอเหตุการณ์ที่ไม่มีเหตุผลจากสถานทูต เอกสารต้องจัดเยอะกว่าสถานทูตอื่นไหม ก็คิดว่าไม่ การอนุมัติยากกว่าไหม ก็ไม่ แต่ที่ต่างคือเขา “เป๊ะ”มาก ทั้งในแง่ความเป๊ะในการอนุมัติจำนวนวันอย่างที่ว่า และความเป๊ะในเรื่องข้อมูล คำแนะนำ และการตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่ไม่มีโหดแบบไม่มีเหตุผล แต่เขาอธิบายแบบมีหลักการ ซึ่งหลายเรื่องฉันก็ว่ายุติธรรมและมีเหตุผลที่ดี เนื่องจากรู้ “ทาง”คนสวิสแล้ว ฉันจึงเตรียมเอกสารสำหรับการย้ายเข้าไว้พร้อมชนิดเป๊ะๆๆแบบกั๊กไม่ให้พลาดเลย

เอกสารที่เตรียมมาจากไทยเยอะมากกกก หลายอย่างต้องไปคัดลอกมาด้วยความยากลำบาก แต่ก็มีมาพร้อม ทุกอย่างให้ทนายรับรองมาหมดทุกใบ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังต้องเอาเอกสารทั้งหมดไปให้กงสุลไทยในซูริกรับรองอีกที อันนี้ฉันไม่เข้าใจเท่าไร ก็เอกสารทุกใบรับรองมาจากกระทรวงต่างประเทศที่ไทยแล้ว ทำไมต้องมาให้กงสุลซึ่งเป็นหน่วยงานเล็กกว่าของกระทรวงต่างประเทศรับรองอีก แต่ก็เอาเถอะ ไปทำวันเดียวก็ได้เพราะเจ้าหน้าที่แค่ประทับตราเซ็นต์ชื่อ แค่เก็บค่าเหนื่อยหน้าละหกร้อยบาทเอง รวมแล้วจ่ายไปอีกเกือบหมื่นบาท

หลังจากนั้นก็เป็นการติดต่อหน่วยงานต่างๆของสวิตฯเพื่อขอเอกสารทั้งหลาย ไม่ว่าจะไปติดต่อที่ไหน เอกสารฉันเป๊ะหมด สิ่งที่พบกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่คาด ที่กลัวว่าจะได้รับอนุมัติยากหรือเจ้าหน้าที่ใจร้าย ดุ กีดกัน ไม่ต้อนรับเข้าประเทศ ไม่ใช่เลย ทุกหน่วยงานทุกคนที่ไปติดต่อ เขาตรวจเอกสารโดยดูที่คุณภาพของเอกสารจริงๆ เราส่งไปครบและสมบูรณ์เรียบร้อย พูดจารู้เรื่อง เขาก็อนุมัติตามขั้นตอน ไม่มีติดขัดอะไรเลยสักนิด

ฉันค้นพบว่า คนสวิสไม่ได้แล้งน้ำใจหรือไม่เป็นมิตรเลย การไม่ยิ้มพร่ำเพรื่อหรือไม่เจาะแจ๊ะเรื่องเล็กน้อยไม่ได้แปลว่าเขาโหดหรือดุ คนสวิสเน้นเรื่องการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล   เขาจึงใช้เวลากับเนื้องานมากกว่าการเจรจาอ้อล้อ   ก็เหมือนนาฬิกาสวิสนั่นแหละ ไม่สวิงสวายฟู่ฟ่าแต่แม่นยำไว้ใจได้และทนทาน จริงๆคุณสมบัติแบบนี้เป็นอะไรที่ถูกจริตถูกใจฉันมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะงานการทุกอย่างเดินไปอย่างถูกต้องและแน่นอนเสมอ ไม่ว่าจะติดต่ออะไรไม่มีเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

ฉันจึงขอฟันธงเลยว่า ไม่จริงที่ว่าคนสวิสเย็นชาหรือโหด ตรงกันข้าม เขาเป็นมิตรมากๆด้วยซ้ำและไม่เบื่อที่จะอธิบายข้อมูลต่างๆให้เราเข้าใจเลย เพียงแต่ว่า เราต้องรับผิดชอบส่วนของเราเช่นการเตรียมเอกสารไปให้ถูกต้องแม่นยำด้วย อย่าไปทำให้เขาเสียเวลาไร้สาระ

พี่ไม่โหด พี่แค่”เป๊ะ” ค่ะswitzerland-red-window

 

NO COMMENTS