หลายสำนักจัดให้เมืองซูริคและเจนีวาติดอันดีบ 10 เมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกมาหลายปีติดกัน ทำให้สวิตฯเป็นหนึ่งในประเทศที่แพงที่สุดไปโดยปริยาย แต่เชื่อหรือไม่ หลายคนที่อยู่ที่นี่บอกว่าไม่จริง อ้าวมันเป็นไปได้อย่างไร

เหตุผลก็คือให้เทียบรายรับกับรายจ่าย  ราคาสินค้าต่างๆที่นี่แพงก็จริงอยู่  แต่รายรับของคนที่นี่ก็สูงมากๆ  โดยคร่าวๆถ้าทำงานที่เยอรมันแล้วย้ายมาทำงานตำแหน่งเดียวกันที่สวิตฯเงินเดือนจะเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว  แต่ค่าครองชีพก็แพงเป็นเท่าตัวตามมาด้วย (นี่คือสาเหตุที่คนสวิสนิยมขับรถข้ามชายแดนไปซื้อของที่เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี  ทุกเสาร์อาทิตย์ซูเปอร์มาร์เก็ตตามเมืองชายแดนจะแน่นไปด้วยคนสวิสตลอด)  ดังนั้นก็จริงอยู่ที่ว่าค่าครองชีพสวิตฯไม่ได้แพงจนอยู่ไม่ได้หากมีรายได้ตามอัตราสวิตฯ

มีพี่คนไทยคนหนึ่งที่ซูริคมักจะเปรียบเทียบเสมอๆว่า  อันที่จริงแล้วอยู่ที่สวิตฯนี่มีกำลังสามารถซื้อของกินของใช้ดีๆได้มากกว่าที่ไทยด้วยซ้ำ  แกมักจะยกให้เห็นว่าวันหนึ่งๆออกไปซื้อของได้อะไรติดมือมาบ้างในราคาเท่าไร  ซึ่งพอคิดตามแล้วมันก็ซื้อของดีๆได้มากกว่าจริงๆเมื่อเทียบกับรายได้  เช่นตอนพี่แกย้ายบ้านแกออกไปซื้อผ้าเช็ดตัวของใช้กระจุกกระจิกต่างๆเข้าบ้าน  คิดเป็นเงินราว 6,000 บาท  ดูเหมือนแพงแต่พอเทียบว่ามันแค่รายได้จากการทำงานแค่ 2 ชั่วโมง (ค่าเฉลี่ยแบบคร่าวๆ) มันกลับถูก  แกถามว่าอยู่ไทยสมมติเงินเดือน 50,000 บาท  ถ้าคิดว่าทำงานเดือนละ 200 ชั่วโมง  เท่ากับค่าแรงชั่วโมงละ 250 บาท  ถามว่าเงิน  500 บาทจากการทำงาน 2 ช.ม. ซื้อของทั้งกองที่แกวางให้ดูได้ไหม  เออจริง  แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวก็หมดแล้ว

เรื่องกำลังซื้อและความสามารถในการมีของกินของใช้ดีๆนี้น่าคิด  ฉันเคยพูดเสมอว่าเมืองไทยนอกจากจะถูกแล้วคนยังมีทางเลือก  คือต่อให้ของบางอย่างแพง  แต่ก็มีทางเลือกที่ถูกๆให้  อย่างอาหารต่อให้ราคาแพงแต่ที่ไหนๆก็มีข้าวแกงข้างถนน  หรือหากจะซื้อถุงเท้าถูกๆแผงริมถนนก็มีคู่ละ 30  คือของถูกมันหาได้หมด  แต่พอมาฟังพี่คนนี้เปรียบเทียบแล้วต้องมาคิดว่า  ของถูกนั้นมันมีคุณภาพหรือเปล่า  ที่สวิตฯนี่หาซื้อของคุณภาพต่ำๆแทบไม่ได้เลย  บางทีอยากจะซื้อของถูกมาทำกิจกรรมอะไรที่ใช้ทีเดียวแล้วทิ้งต้องไปหาตามร้านขายของเอเชียเพราะเสียดายที่จะใช้ไม่คุ้ม  ประเด็นคือว่า  ที่สวิตนี่คนทุกคนสามารถซื้อของดีๆใช้ได้  ไม่ใช่ว่าทุกอย่างซื้อของถูกคุณภาพต่ำแล้วความเป็นอยู่ซอมซ่อ  ฉันเลยมาคิดใหม่ว่า  บางทีการที่ข้าวของที่นี่เป็นของดีๆหมด  แม้จะแพงแต่ทุกคนสามารถจ่ายได้  ก็ทำให้พลเมืองทุกคนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี  อันนี้น่าคิดว่าการซื้อของถูกๆนั้นมันคุ้มเงินจริงหรือเปล่า  ของสวิสนั้นทนทานและดีเลิศ  ซื้อแล้วไม่ต้องซื้อไปอีกนาน

ตัวอย่างง่ายๆอีกอย่างคือค่ากับข้าว  ฉันทำกับข้าวที่บ้านแทบทุกวัน  กินกันสามมื้อ (เพราะสามีก็เอาอาหารกลางวันที่ฉันจัดใส่กล่องให้ไปกินที่ทำงาน)  อยู่กันสามคนฉันจ่ายค่ากับข้าวรวมเหล้าไวน์ด้วยเดือนละประมาณสามหมื่นบาท  เงินเดือนเฉลี่ยของสวิสทั้งประเทศประมาณสองแสนบาท  ถ้าคิดว่าค่ากับข้าวเป็น 15% ของเงินเดือน  พอเทียบกับไทย  คนเงินเดือน  50,000 จะต้องจ่ายค่ากับข้าวเดือนละ 7,500 ถามว่า 7,500 ซื้อผักผลไม้เนื้อที่ออร์แกนิกหมดได้ไหม  รวมไวน์เดือนละ 10 ขวดด้วยนะ  และเนื้อสัตว์ก็เป็นเนื้อดีๆ  สเต็คชิ้นดีๆ เนื้อแกะ ซาลมอน หอยเชลล์  ขนมปัง นม เนย ชีส เป็นชนิดคุณภาพดีๆทั้งหมดสดใหม่

ปีที่แล้วน้องสาวและแม่มาอยู่ด้วย 2 สัปดาห์  พาไปซูเปอร์  น้องตื่นเต้นของดีๆขนซื้อเยอะแยะจะเอากลับไปตุนกินที่เมืองไทย  ขนเข็นขนาดใหญ่เต็มล้น  พอจ่ายเงินราคาออกมาสองหมื่นกว่าบาท  เธอจะเป็นลมว่าทำไมของประเทศนี้มันแพงเหลือเกิน  สรุปคือ  สวิตฯแพงสำหรับคนมาเที่ยว  แต่ไม่แพงเลยสำหรับคนที่อยู่และมีรายได้อัตราสวิส  แถมมีของกินของใช้ดีๆ  ใครจะมาเที่ยวฉันบอกเสมอว่า แพงนะ มาได้ แต่อย่าช้อปปิ้ง

ส่วนตัวฉันนี่ฟังแล้วเศร้าเลย  เพราะทำงานเก็บเงินมาตลอดชีวิตเป็นเงินบาท  แต่ต้องมาเกษียนใช้เงินเก็บที่สวิตฯ  ไม่มีรายได้อัตราสวิส  คิดทีไรขำตัวเองทุกที  เลยเป็นคนที่อยู่ที่นี่ที่คิดตลอดเวลาว่าทุกอย่างมันแพงๆๆๆๆเพราะอดเทียบเป็นเงินไทยไม่ได้ทุกที  เฮ้อ…กรรม

NO COMMENTS