มีกิจกรรมอยู่อย่างหนึ่งซึ่งมีความเป็นสวิสอย่างมากแต่นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยได้สัมผัส สิ่งนั้นคือสิ่งที่คนสวิสเรียกรวมๆว่า Wellness มันคือสถานที่รวมกิจกรรมเกี่ยวกับวารีบำบัดทั้งหลายนั่นเอง นอกจากจะมีห้องซาวน่าร้อนห้องอบไอน้ำแล้ว หัวใจหลักของเวลล์เนสทั้งหลายยังมีบ่อน้ำสารพัด ซึ่งแต่ละบ่อก็จะมีการใช้งานและผลแห่งการบำบัดต่างกันไป คนสวิสชอบไปเวลล์เนสเพื่อผ่อนคลายและดูแลสุขภาพ และเนื่องจากสวิตฯขึ้นชื่อเรื่องศูนย์ดูแลสุขภาพและเทคโนโลยีทางด้านแอนตี้เอจจิ้งทั้งหลายอยู่แล้ว เวลล์เนสแต่ละที่ของสวิตฯจึงเลิศมากๆ ทั้งอุปกรณ์ การออกแบบ ล้วนเป็นเลิศลึกซึ้งสำหรับศาสตร์การแพทย์ทางเลือกและการดูแลสุขภาพองค์รวม ฉันมาสวิตฯใหม่ๆได้ไปเห็นรู้สึกตกใจไม่น่าเชื่อกับคุณภาพและการลงทุนที่เขาทำ เพราะถ้าบ้านเราจะทำให้ดีแบบนี้ก็ต้องมีแต่ในโรงแรมห้าดาวหกดาวเท่านั้น แต่ที่สวิตฯมีเวลล์เนสให้คนไปใช้บริการกันได้ทั่วไปไม่แพงทั้งในตัวเมืองในศูนย์สุขภาพศูนย์ออกกำลังกาย และยังมีหลายที่ๆสร้างอยู่บนภูเขาได้ชมวิวธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของการบำบัดไปด้วย

วันก่อนฉันได้ไปพักที่โรงแรม Bürgenstock Resort ซึ่งเปิดใหม่ไม่ถึงหนึ่งปี อยู่ไม่ไกลจากเมืองลูเซิร์น ไปนอนหนึ่งคืนซึ่งค่าพักโรงแรมนี้ได้รวมค่าเข้าใช้บริการของเวลล์เนสอยู่แล้วทั้งสองวัน โรงแรมนี้ถือเป็นโปรเจ็คใหญ่ยักษ์อันเป็นที่กล่าวถึงของคนสวิส เพราะใช้เวลาหลายปีมากในการสร้างและเป็นการลงทุนจาก Qatar ซึ่งเป็นเรื่องราวโต้เถียงกันมาก เนื่องจากคนสวิสไม่ต้องการให้โปรเจ็คใหญ่มุ่งหวังผลกำไรมาทำลายสภาพแวดล้อมธรรมชาติและความเป็นอยู่ รวมทั้งทัศนียภาพของชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่ แต่กลุ่มการ์ต้ามีความมุ่งมั่นจริงที่จะเป็นเจ้าของสปาที่ดีที่สุดในสวิตฯให้ได้ จึงยอมทำตามเงื่อนไขของสวิตฯทุกอย่าง เช่นใช้สถาปนิกและบริษัทก่อสร้างของสวิตฯ และยังมีโปรเจ็คร่วมกับชุมชนท้องถิ่นหลายอย่าง ใช้เวลาอยู่นานหลายปีสวิตฯจึงยอมให้ก่อสร้าง เป็นโปรเจ็คใหญ่มากๆ มีการสร้างตึกขึ้นเป็นโรงแรมใหม่เอี่ยม และบูรณะปรับปรุงโรงแรมและเกสต์เฮ้าส์ที่มีอยู่เดิม 3 แห่งในบริเวณ และเอาเข้าไปอยู่รวมในโปรเจ็คเดียวกันด้วย มีร้านอาหารหลายร้าน มีจุดแสดงคอนเสิร์ตนิทรรศการ และที่สำคัญมีเวลล์เนสซึ่งใหญ่บะรึ่มฮึ่มและทันสมัยสุดๆอยู่ในบริเวณ และมีการสร้างรถราง Funicular ไต่เขาจากโรงแรมด้านบนลงมาถึงท่าเรือริมทะเลสาบลูเซิร์น แขกที่มาพักหรือคนที่มาใช้บริการสามารถนั่งเรือคาทามาแรนของโรงแรมต่อไปเที่ยวตัวเมืองลูเซิร์นได้เลย ถ้าไม่ขับรถมาก็สามารถนั่งรถไฟมาลงที่สถานีลูเซิร์นแล้วต่อเรือมาถึงโรงแรมได้เลยแบบสวยๆ คือมันเป็นโปรเจ็คใหญ่ยักษ์อลังการมาก และด้วยเหตุนี้ฉันจึงอยากรู้อยากเห็นจนจำเป็นต้องไปเช็คเวลล์เนสและโรงแรมนี้เสียหน่อย

ศูนย์เวลล์เนสกินพื้นที่สองชั้นใหญ่ของตึกที่เชื่อมกับโรงแรม จากรีเซพชั่นก็เข้าไปห้องแต่งตัวของหญิงชายซึ่งแยกกัน มีล็อกเกอร์ที่อาบน้ำใหญ่โตสะดวกสบายตามมาตรฐานสวิสทั่วไป พอเดินออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วก็จะถึงบริเวณสระว่ายน้ำใหญ่มีกระจกใสพื้นจรดเพดานอวดวิวทั้งสองด้าน แต่ก็ไม่มีใครอยู่ข้างในหรอก เพราะด้านนอกนั้นคือสระว่ายน้ำสุดอลังการที่เรียกเสียงฮือฮาได้จากทุกคนที่มาเห็นนั่นเอง

ทางออกไปสระด้านนอกนั้นต้องเดินลงบันไดลุยไปในบ่อน้ำ พอกดปุ่มประตูกระจกที่กั้นลงไปถึงใต้น้ำก็เลื่อนออกให้เดินสู่ด้านนอกซึ่งเป็นสระว่ายน้ำโอบรอบสองด้านของตึก เป็น Infinity pool ลอยฟ้าพร้อมวิวทะเลสาบ มีมุมสองมุมยื่นพุ่งออกไปในผาสูงลิ่ว ไปเกาะตรงมุมนี้แล้วชมวิวได้อย่างฉ่ำใจ มองไปทางซ้ายเห็นภูเขา Pilatus หันไปทางขวาเห็นภูเขา Rigi ส่วนด้านล่างก็คือทะเลสาบลูเซิร์น คือทุกอย่างรวมอยู่ตรงนั้นจุดเดียว อลังการงานสร้างสุดๆไม่รู้จะบรรยายอย่างไรเลย ชมรูปและคลิปเลยดีกว่า

ชั้นบนคือสระว่ายน้ำหลัก ส่วนชั้นล่างนี่คือที่รวมของห้องปฏิบัติการวารีบำบัดทั้งหมด แต่ก่อนเข้าห้องพอเดินลงบันไดมาเจอสระว่ายน้ำอีกสระหนึ่งก่อน อันนี้ฉันกรี๊ดมากเพราะมันเป็นสระเอ้าท์ดอร์แบบ Eco pool คือสระที่เหมือนบ่อน้ำธรรมชาติจริงโดยที่มีการปลูกพืชน้ำอยู่รอบขอบสระ และระบบน้ำที่หมุนเวียนเป็นน้ำเดียวกับน้ำที่ปลูกต้นไม้ สระอีโค่พูลแบบนี้เริ่มเป็นที่นิยมและฉันชอบมากเพราะมันดูเป็นธรรมชาติจริง ใช้ระบบการทำความสะอาดและหมุนเวียนน้ำเลียนแบบบ่อน้ำหรือทะเลสาบแบบธรรมชาติ ตัวบ่อก็เหมือนเราลงไปว่ายในสระบัวหรือบ่อปลาเลย ไม่มีการปูกระเบื้องสีฟ้าผิดธรรมชาติใดๆทั้งสิ้น บ่อนี้ที่นี่เขาเรียก garden pool เสียดายที่น้ำเย็นหนาวไปหน่อยเลยไม่ได้ลงได้แต่ยืนชื่นชม

และตรงหน้าสระ garden pool นี้มีบ่อแบบ Kneipp คือบ่อน้ำที่ปูก้อนหินเม็ดกลมให้เราลงไปเดินเพื่อให้ก้อนหินนวดฝ่าเท้า ที่นี่มีสองบ่อๆแรกเป็นน้ำเย็นจัด พอกลั้นใจทนหนาวเดินเสร็จแล้วให้เดินลงไปในบ่อน้ำอุ่นมันจะเกิดอาการเหมือนเข็มเล็กๆมาทิ่มจั๊กจี้บนผิวหนัง รู้สึกติ๊งกระดิ๊งลิ๊งสนุกดี

ส่วนบรรดาห้องหับต่างๆนั้นคือสุดจะบรรยาย เพราะมีเยอะมากจนนับไม่ถ้วน มีโซนผู้หญิงล้วน มีโซนทั่วไป และโซนนู้ดที่ให้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมด ในแต่ละโซนก็จะมีบ่อน้ำร้อนที่ให้ลงสลับกับบ่อน้ำเย็นจัด มีห้องสตีมอบไอน้ำ ห้องซาวน่าที่แบบอุณหภูมิร้อนปานกลางที่ 60 องศา และแบบร้อนจัดแบบ Finnish sauna อุณหภูมิถึง100 องศา และห้องนี้มีวิวที่น่าจะเป็นห้องซาวน่าที่สวยที่สุดในโลกที่หนึ่งที่เดียว เพราะเป็นห้องใหญ่มากที่กรุด้วยกระจกตั้งแต่พื้นถึงเพดาน สองด้านเปิดโล่งออกเห็นวิวทะเลสาบ นั่งอบความร้อนระดับน้ำเดือดไปก็มองเห็นวิวกว้างพาโนราม่าไป สุดยอดมากๆ เมื่อเข้าห้องซาวน่าและห้องสตีมร้อนจัดแล้วยังมีห้อง Ice room เป็นห้องเย็นจัดเหมือนเข้าไปอยู่ในตู้เย็น มีกองน้ำแข็งอยู่ตรงกลาง เป็นการเปลี่ยนอุณหภูมิร้อนจัดเย็นจัด ซึ่งเชื่อกันว่าจะเพิ่มภูมิต้านทานและรักษาโรคได้หลายอย่าง

ทีเด็ดอีกสองสามอย่างที่เวลล์เนสอื่นๆไม่มีก็คือ บ่อน้ำเกลือซึ่งเค็มจัดจนเราลงไปลอยได้ไม่จม ออกแบบเป็นบ่อน้ำตื้นๆและทำเป็นซองๆให้เราเข้าไปนอนลอย บ่อนี้ปรับไฟให้มืด เราไปนอนรีแล็กซ์ลอยตัวบนน้ำอย่างผ่อนคลาย อีกห้องหนึ่งเป็นห้องอบไอน้ำที่มีไฟอยู่บนเพดานเหมือนดาว มีหินและน้ำไหลจ๊อกๆชวนผ่อนคลายอยู่ตรงกลาง ห้องนี้ใช้กระเบื้องสีทองจะได้อารมณ์เหมือนสปาแขกหน่อยๆ อีกห้องเป็นซาวน่าที่ใส่สมุนไพรหอมเหมือนอยู่ในป่า ทีเด็ดสุดท้ายคือห้อง infrared ที่ปล่อยแสงอินฟราเรดออกมาให้ความร้อนตามแนวกระดูกสันหลังตรงเก้าอี้ที่นั่ง ทำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอและหลัง เสร็จแล้วไปนอนในเตียงผ่อนคลายหรือ nap pod เมื่อกดปุ่มจะมีเสียงดนตรีออกมาจากเก้าอี้ตรงหูพอดี และมีการสั่นสะเทือนของเสียงดนตรีบนเตียง อันนี้เป็นการบำบัดด้วยเสียงนั่นเอง ช่วยให้ผ่อนคลายหรือจะนอนหลับก็ได้

เมื่อบำบัดกันจนครบทุกบ่อทุกห้องแล้วก็ยังมีส่วนที่ให้นอนผ่อนคลายต่ออีก จัดเป็นเก้าอี้นอนเตียงนอน มีหนังสือให้อ่านในมุมที่เปิดโล่งชมวิวทะเลสาบสวยงามเช่นกัน สามารถชงชาดื่มน้ำหยิบถั่วและผลไม้ที่จัดวางไว้ให้มานั่งนอนทานได้ ฉันใช้บริการในเวลล์เนสนี้ทั้งสองวัน วันแรกแค่ลงบ่อน้ำด้านนอกเพราะมาถึงตอนเย็นแล้ว แต่วันที่สองใช้เวลาอยู่ในนั้นเกือบ 5 ชั่วโมงหมุนเวียนเปลี่ยนห้องบำบัดกันไป รู้สึกผ่อนคลายทั้งกายใจติดใจมากเลย

เราพักที่โรงแรมนี้จึงใช้บริการได้ทั้งสองวันโดยไม่ต้องเสียเงินอีก แต่หากใครไม่พักจะมาใช้บริการเวลล์เนสเฉยๆก็ได้ เขาคิดแบบ 3 ชั่วโมงหรือแบบอยู่ได้ทั้งวัน โดยที่ราคาวันจันทร์ถึงพฤหัสจะถูกกว่าวันศุกร์เสาร์-อาทิตย์ แบบอยู่ทั้งวันวันจันทร์ถึงพฤหัสราคา 220 สวิสฟรังก์ แต่ถ้าเป็นวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ราคา 300 ฟรังก์ นับว่าแพงมากๆเมื่อเทียบกับเวลล์เนสที่อื่น ฉันจึงคิดว่าถ้ามาเปิดห้องนอนอยู่คืนหนึ่งคุ้มกว่า เพราะค่าห้อง 640 สวิสฟรังก์ นอกจากสองคนจะได้ใช้เวลล์เนสถึงสองวันแล้วยังมีอาหารเช้าจัดเต็ม และสามารถนั่ง Funicular ลงไปล่องเรือในทะเลสาบลูเซิร์นเล่นได้ฟรีอีกด้วย คุ้มกว่ากันเยอะเลย

มีจุดเช็คอินหนึ่งที่น่าตื่นเต้นคือ ร้านขายของที่ระลึกของโรงแรมนั้น มีระเบียงเล็กๆยื่นออกไปจากตัวตึกโดยที่ทั้งระเบียงรอบและพื้นเป็นกระจกใสแจ๋วทั้งหมด จนดูเหมือนว่าไม่มีอะไรล้อมกั้นตัวเรากับด้านนอกอยู่เลย จากสปามองมาไกลๆจะเห็นระเบียงนี้เหมือนระเบียงแก้วใสแหนวยื่นออกมาจากตึก ดูท้ามฤตยูตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก จนฉันต้องไปเดินหาว่าทางเข้าอยู่ตรงไหน แล้วขอพิสูจน์ใจตัวเองเดินออกไปยืน ตอนไปยืนที่ขอบประตูต่อระเบียงก่อนก้าวออกไปเหยียบ มันโล่งว่างเหมือนจะกระโดดบันจี้จั๊มพ์ หวาดเสียวดีแท้ แต่ความอยากมันมีมากกว่า จึงค่อยๆก้าวขาที่สั่นๆออกไปทีละก้าวทีละน้อย เกาะๆขอบไป จนออกไปยืนข้างนอกเต็มตัวได้ในที่สุด บอกเลย มันสุดยอดมากค่ะ จุดนี้ต้องไปให้ถึงไม่แพ้ลอยตัวอยู่ในบ่อน้ำเหนือฟ้าเลย (ใครกลัวความสูงห้ามดูคลิปนี้)

มาว่าต่อเรื่องโรงแรม ซึ่งมีถึง 4 โรงแรมในบริเวณเดียวกัน ฉันเลือกพักโรงแรมที่ใหม่สุดห้าดาวและราคาแพงที่สุด (จะได้รู้กันไปเลย) ห้องสวยวิวประทับใจมากเช่นกัน และสิ่งของที่ให้ในห้องก็เลิศมาก ไม่ว่าจะเป็น amenity ของ Bulgari เครื่องดื่มฟรีในตู้เย็นที่มีให้เลือกมากมาย และอื่นๆแต่ขอบอกว่าบริการโรงแรมกับร้านอาหารยังหลุดเยอะอยู่มาก รายละเอียดเล็กๆน้อยไม่ประทับใจเลย ไม่เนี้ยบสมราคาและอาหารก็ไม่ได้อร่อย คิดว่าเขายังใหม่อยู่ อาจจะรอให้เข้าที่เข้าทางแล้วไปลองดูอีกที ให้โอกาสแก้ตัวก็แล้วกัน 

ส่วนเวลล์เนสนั้นคงจะหาโอกาสกลับไปอีกแน่นอนเพราะเท่าที่ไปมาว่าสุดยอดหลายที่แล้ว ที่นี่กินขาดจริงๆ ใครมาเที่ยวสวิตฯอยากให้มาลองเวลล์เนสเขาบ้าง ถ้าไม่อยากจ่ายแพงมากก็ไปที่อื่นดีๆมีหลายที่มากๆ จะได้สัมผัสสวิตเซอร์แลนด์ในอีกมุมหนึ่งแบบคนสวิสจริงๆ

 

2 COMMENTS

  1. ขอบคุณสำหรับ review คะต้องไปพักละคะ เป็นแฟน wellness เหมือนกัน ปกติ จะไปประจำที่ Grand resort Badragaz เขาจะมีแช่น้ำแร่ด้วย ราคาพอๆกันคะ 600 up แต่ไม่ได้วิวทะเลสวยๆแบบนี้ที่ Luzern

    • อยากไปลองที่ Bad Ragaz หลายครั้งไม่ได้ไปเสียทีค่ะ สงสัยต้องจัดแล้วค่ะ

Comments are closed.