ชีวิตนี้ฉันมาเบลเยี่ยมกี่ครั้งแล้วก็นับไม่ถูก แต่ทุกครั้งที่มาก็จะเป็นการเยี่ยมบ้านเยี่ยมญาติ กิจกรรมจึงวนเวียนอยู่แต่ครอบครัวและเพื่อน ไม่ค่อยมีกิจกรรมท่องเที่ยวเท่าไหร่ ทริปกลับบ้านปีใหม่ปีนี้ตอนที่ขับรถผ่านเมือง Leuven อยู่ดีๆฉันก็เอ่ยปากขึ้นมากับสามีว่า นี่เมืองนี้ที่ยูเรียนมหาวิทยาลัยจนจบมาน่ะ ได้ข่าวว่ามันมีสถาปัตยกรรมสวยงามน่าชมพอควร ไอไม่เคยมาเลย พามาหน่อยสิ ปรากฏว่าสามีเกิดตื่นเต้นไปด้วย บอกว่าจริงด้วยฉันไม่ได้กลับมาเยี่ยมเมืองมหาวิทยาลัยนี้มาเกือบ 30 ปีแล้ว แล้วก็ดำริว่าจะพาฉันมาแกะรอยสถานที่ๆเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ ดังนั้นเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมาฉันจึงมีไกด์ท้องถิ่นตัวจริงพาไปเดินชมเมือง Leuven สบายๆ

Leuven เป็นเมืองที่ตั้งของ KU Leuven มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในเบลเยี่ยม และเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในบริเวณเนเธอร์แลนด์และเบลเยี่ยมตอนเหนือที่เรียกกันว่าเขต The Low Countries โดยก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1425 และเป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตเบียร์ที่ใหญ่มากของโลกด้วย เป็นเจ้าของเบียร์ถึง 400 กว่าแบรนด์ทั่วโลก เมืองนี้มีวัฒนธรรมการกินเบียร์ที่จริงจัง และเป็นเมืองเกิดของเบียร์ยี่ห้อดังหลายยี่ห้อเช่น Stella Artois สามีชี้ให้ดูผับบาร์ที่เคยมา Hangout กินเบียร์สมัยเป็นนักเรียน แหมไม่สงสัยเลยว่ากินเบียร์เก่งเพราะอะไร

สามีพาเดินดูสถานที่ๆเขาเคยใช้ชีวิตนักเรียนอยู่เป็นหลัก ไม่ได้เน้นชมสถานที่ท่องเที่ยวดัง ได้ไปแกะรอยถนนตรอกซอยที่เขาเคยเดินเป็นประจำ ศูนย์วัฒนธรรม STUK ที่เขาเคยมารับจ๊อบทำงานตรวจตั๋วแลกกับการได้ดูละครฟรีซึ่งเขาชอบมาก

ได้ไปดูหอพักเป็นตึกโบราณที่เขาพักตอนปีหนึ่งปีสอง และตอนนี้ก็ยังมีนักเรียนพักแล้วนั่งอ่านหนังสือกันอยู่ในห้องสมุด

ไป Town Hall ศาลาว่าการเมือง ชม ‘Oude Markt’ หรือ Old Market square ที่เป็นลานหลักในการจัดงานสำคัญกลางเมืองและเขาเคยมานั่งชมคอนเสิร์ตกลางแจ้งบ่อยๆ

เข้าไปชมโบสถ์ Saint-Anthony’s Chapel ที่มีศพของ Father Damiaan นักบุญชาวเบลเยี่ยมที่ไปช่วยดูแลรักษาคนเป็นโรคเรื้อนที่ถูกปล่อยให้ติดเกาะที่ฮาวายจนตัวเองติดโรคเรื้อนตาย และตอนหลังโป๊บแต่งตั้งให้เป็นนักบุญ อันนี้เราจะอินนิดหน่อยเพราะมีหลานลูกเพื่อนที่พ่อเขาตั้งชื่อว่า Damiaan ตามนักบุญท่านนี้

แต่ที่ฉันชอบที่สุดในเมืองก็คือ Groot Begijnhof มันคืออาคารตึกเก่าเป็นอิฐสีแดงที่ประกอบไปด้วยบ้านประมาณ 100 หลังที่แบ่งเป็นอพาร์ตเม้นต์ประมาณ 300 อพาร์ตเม้นต์ อันเคยเป็น Beguinage หรือกุฏิที่พักอาศัยของ Beguine ที่จะแปลว่าแม่ชีก็ไม่เชิง Beguine คือผู้หญิงในศาสนาแคทอลิกที่อุทิศตัวให้ศาสนา แต่งตัวเหมือนนางชี ปวารณาตัวว่าจะไม่แต่งงานและถือศีลบางข้อแต่ก็ไม่มากข้อเท่าแม่ชี ที่อยู่ของแม่ชีพวกนี้เรียกว่า Beguinage ซึ่งก็ไม่เหมือนคอนแวนต์ที่เป็นที่อยู่ของแม่ชีจริงๆอีกนั่นแหละ

สำหรับ Groot Begijnhof นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกยูเนสโกเมื่อปี 1998 ด้วยความเก่าแก่ถึงรวม 800 ปีและนับเป็น Beguinage ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่เหลืออยู่ ปัจจุบันอาคารนี้เป็นของมหาวิทยาลัยและใช้เป็นที่พักของบรรดาอาจารย์นักศึกษา Beguinage แบบนี้มีที่เมือง Bruges และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกยูเนสโกเช่นกัน ฉันไปมาแล้ว ชอบทั้งสองที่ แต่ที่นี่ใหญ่กว่ามาก มันเหมือนกับเป็นเมืองเล็กที่ซ้อนอยู่ในเมืองใหญ่อีกทีทีเดียว น่าไปเที่ยวชมมากๆ


ถึงจะได้เที่ยวชมเมือง Leuven แต่เพียงสั้นๆแต่มันก็เป็นการ Walk down the memory lane ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและตื้นตันใจ เหมาะกับเป็นการเริ่มปีใหม่จริงๆ

NO COMMENTS