Truffle ขาวคือเห็ดราคาแพงที่สุดในโลก ด้วยกลิ่นที่หอมรัญจวนใจอย่างที่ไม่มีอะไรเหมือน การเก็บเกี่ยวก็จะต้องใช้หมาช่วยดมหา เพราะมันเป็นเห็ดที่ฝังอยู่ใต้ดิน ราคาจึงตกกิโลกรัมละเป็นแสนบาท และเมืองที่นับว่าเป็นเมืองหลวงของเห็ดทรัฟเฟิลนี้ก็คือเมือง Alba ในแคว้น Piedmont ของอิตาลีซึ่งจะมีการจัด The International Alba White Truffle Fair เทศกาลเห็ดทรัฟเฟิลขาว เป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ในเมื่อโควิดทำให้กลับกรุงเทพไม่ได้ในช่วงนี้ จึงได้ฤกษ์ดีไปเที่ยวเทศกาลทรัฟเฟิลขาวที่เมือง Alba แบบจัดเต็มเสียเลย ที่บอกว่าจัดเต็มก็เพราะฉันไม่ได้ไปแค่ตลาดในเทศกาลเพื่อเลือกซื้อและเข้าร้านอาหารกินทรัฟเฟิลอย่างเดียว แต่ฉันไปทัวร์เข้าป่าตามล่าขุดหาเห็ดทรัฟเฟิลโดยมีน้องหมาดมนำทางด้วย แบบนี้มันจึงจะเที่ยวเหนือฟ้าของจริง

วันแรกเราไปเดินเที่ยวเทศกาลที่จัดใจกลางเมืองอัลบ้าก่อนสถานที่จัดเทศกาลอยู่ตรงใจกลางเมืองเก่าเลย เราจึงได้เดินเที่ยวชมเมืองไปด้วย ตัวเมืองขนาดไม่ใหญ่มากและมีบ้านเมืองสีสดใสพร้อมถนนคนเดินตามฉบับอิตาลี เราจอดรถแล้วเดินตามถนนคนเดินเข้าไป ผู้คนคึกคักพอควรแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทางเข้างานอยู่ตรงถนนคนเดินเลย สามารถซื้อตั๋วออนไลน์มาก่อนได้ล่วงหน้าถ้าไม่อยากเข้าคิว ตั๋วค่าเข้าราคาเพียง 4 ยูโร แต่เราซื้อแบบราคา 13.5 ยูโรเพราะจะได้ชิมไวน์ด้วยอีกคนละสองแก้ว และได้เก็บแก้วเป็นที่ระลึกกลับบ้านด้วย

เทศกาลนี้นอกจากมีการออกร้านขายเห็ดทรัฟเฟิลซึ่งรับประกันคุณภาพทุกร้าน และมีการขายอาหารต่างๆที่มีทรัฟเฟิลเป็นส่วนประกอบแล้ว ยังมีเวิร์คช็อปการทำอาหาร การเรียนดมกลิ่นทรัฟเฟิล การชิมไวน์ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสามารถซื้อตั๋วเข้าร่วมกิจกรรมแยกเป็นอย่างๆไปได้ แต่ฉันไม่อยากจะร่วมกิจกรรมอะไรอย่างอื่นนอกไปจากการเดินช้อปปิ้งซื้ออาหารการกินทั้งหลาย เราจึงใช้เวลาไปกับการชิมไวน์และชิมอาหารต่างๆตามซุ้มที่มีให้ชิมก่อนซื้อ อร่อยและได้ของกินติดไม้ติดมือมาเยอะเลย ทั้งพาสต้าแบบเกี๊ยวตัวเล็กที่เรียกว่า Plin ซึ่งเป็นพาสต้าประจำแคว้น Piedmont ชีสสอดไส้ทรัฟเฟิล ถั่ว Hazelnut ซึ่งเป็นต้นไม้ที่จะมีเห็ดทรัฟเฟิลขึ้นอยู่ใต้ต้น เส้นพาสต้าสดรสทรัฟเฟิล และซอสเครื่องจิ้ม น้ำผึ้ง ฯลฯ ทุกสิ่งอันซึ่งมีเห็ดทรัฟเฟิลเป็นสิ่งประกอบอยู่

ส่วนตัวเห็ดทรัฟเฟิลเองนั้นฉันได้เดินสำรวจและพูดคุยกับคนขายแต่ยังไม่ได้ซื้อ เพราะจะไปซื้อจากพ่อค้าดีลเลอร์โดยตรงวันก่อนกลับบ้าน จะได้สดๆเนื่องจากไม่ควรเก็บเอาไว้เกินเจ็ดวัน ปีนี้เห็ดมีคุณภาพดีและราคาก็ใช้ได้ เห็ดทรัฟเฟิลขาวจะมีคุณภาพดีและราคาสูงกว่าเห็ดทรัฟเฟิลดำ ปีนี้ตกราคาในช่วงประมาณ 200 ถึง 300 ยูโรต่อ 100 กรัม ฉันเห็นมีหนึ่งก้อนใหญ่กว่ากำปั้นราคา 4500 ยูโร โอ้ยจะเป็นลม

วันรุ่งขึ้นเป็นวันตื่นเต้น เพราะเราจะไปตามล่าหาเห็ดทรัฟเฟิลในป่ากัน โดยจะมีน้องหมาที่ถูกฝึกมาเพื่อดมกลิ่นหาทรัฟเฟิลอย่างชำนาญเป็นผู้นำทางครั้งนี้ฉันมีเพื่อนสนิทไปด้วย เป็นสายกินตัวแม่เลย จึงให้นางเป็นคนจอง private tour นี้ตรงกับการท่องเที่ยวท้องถิ่นอิตาลี เขาจัดหานายพรานล่าทรัฟเฟิลที่จะพาเราไปให้เลย

ถึงเวลาเราก็ไปตามนัด พบคุณตา Gianfranco ซึ่งมีประสบการณ์ตามล่าหาทรัฟเฟิลมา 30 กว่าปีแล้ว และคุณตาได้มาซื้อที่ดินเพื่อทำเป็นทรัฟเฟิลฟาร์มของตัวเองเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา คุณตาขับรถพาเราไปที่ที่ดินในป่าของคุณตา มีรั้วล้อมรอบหนาแน่นและมีกล้องวงจรปิดติดที่หน้าประตูและตามส่วนต่างๆในที่ดินด้วย ก็เจ้าทรัฟเฟิลนี้เขาเรียกกันว่าเป็นทองคำใต้ดินทีเดียว ถ้าไม่ล้อมให้ดีก็จะมีโดนขโมยได้ ภายในที่ดินคุณตามีกระต๊อบปูนหลังเล็กอยู่ด้านหน้า เราไปนั่งตรงนั้นเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อน คุณตามีรองเท้าบู๊ทยางมาให้เราใส่ด้วยเพื่อความสะดวกในการเดิน และนำแมกกาซีนกับหนังสือพิมพ์มาให้ดู โอ้โหคุณตาเป็นคนดังนะนี่ มีบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวทรัฟเฟิลลงหลายหน้าทีเดียว คุณตาเล่าให้ฟังว่าเจ้าเห็ดทรัฟเฟิลนี้จะชอบขึ้นอยู่ตามรากของต้นโอ๊คและต้น Hazelnut ซึ่งขึ้นกระจายกันเป็นป่าโปร่งๆ เห็ดทรัฟเฟิลมีสองแบบคือแบบทรัฟเฟิลขาวซึ่งไม่สามารถทำฟาร์มเพาะปลูกได้ จะต้องขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น ราคาของทรัฟเฟิลขาวนั้นจึงแพงกว่าทรัฟเฟิลดำถึง 10 เท่าทีเดียว ซึ่งในป่าด้านหน้าเรานี่แหละที่เราจะเดินไปหาทรัฟเฟิลขาวนี้กัน ส่วนทรัฟเฟิลดำนั้นสามารถเพาะได้ คุณตาก็จะมีส่วนซึ่งเพาะอยู่ในบริเวณติดกัน

เมื่อเราเปลี่ยนรองเท้าเรียบร้อยแล้วคุณตาเจียนฟรังโก้ก็เดินไปที่รถแล้วเปิดกรงให้หมาน้อยชื่อ Bill ซึ่งจะเป็นผู้นำทางในการหาทรัฟเฟิลของเราวันนี้ออกมา บิลเป็นหมาตัวผู้พันธุ์ English Pointer อายุ 3 ขวบ คุณตาบอกว่าบิลยังเป็นนักเรียนอยู่ และอายุน้อยจึงไฮเปอร์มาก เวลาพาออกมาทำงานอย่างเช่นวันนี้จะค่อนข้างเหนื่อยทีเดียว ไม่เหมือนกับอีกตัวหนึ่งอายุ 11 ปีแล้ว จะมีความสุขุมชำนาญกว่า แต่นางแก่แล้วก็จะเหนื่อยง่ายหน่อย บิลนั้นพอประตูกรงเปิดก็กระโดดพรวดออกมาเลย ไฮเปอร์อย่างที่คุณตาบอกเอาไว้ นางกระโดดโลดเต้นดีใจวิ่งไปมาแล้วก็เริ่มทำการดมตามพื้นทันทีไม่รีรอ คุณตาต้องวิ่งตามไป ส่วนเราก็วิ่งตามไปด้วย ใช้เวลาไม่นานบิลก็ดมๆๆๆแล้วขุดๆๆๆๆตรงพื้นดินใต้ต้นไม้แห่งหนึ่ง คุณตารู้ทันทีว่าบิลเจอทรัฟเฟิลแล้ว จึงรีบจับบิลไว้ไม่ให้ขุดต่อลงไปลึกมาก เพราะมันอาจจะทำให้ทรัฟเฟิลเสียหายได้ และบิลก็อาจจะแอบกินทองคำนี้ของคุณตาไปด้วย คุณตาจึงกันบิลไว้และใช้มือขุดดินต่อลงไปเอง คุณตาโกยดินซึ่งชื้นแฉะแต่ร่วนพอควรใส่มือขึ้นมาให้เราดม ฉันยื่นจมูกเข้าไปใกล้ๆแล้วสูด โอ้โหกินมันหอมฟุ้งจรุงไปทั่วทั้งปอดจนถึงขั้วหัวใจเลย สุดยอดจริงๆ

คุณตาใช้เหล็กช่วยขุดอีกนิดหน่อยแล้วก็ใช้มือค่อยๆปาดดินออกทีละน้อยอย่างระมัดระวัง และในที่สุดเราก็เห็นหัวทรัฟเฟิลหัวเล็กซ่อนอยู่ใต้ดิน คุณตาค่อยๆงัดประคองขึ้นมาแล้วเอามายื่นให้เรา หัวนี้มีสีน้ำตาลอ่อนกลมขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่เป็นหัวแรกที่เราเจอวันนี้เราจึงตื่นเต้นกันมาก หลังจากนั้นบิลก็พาเราวิ่งลุยเข้าไปในป่า ดมหาหลายที่หลายแห่งอีกมากมาย บางครั้งก็ใช้เวลามากหน่อย แต่สักพักบิลก็จะหาจนเจอ พอบิลเริ่มตะกุยลงไปคุณตาก็จะตามไปขุดดู บิลไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง วันนั้นเราเจอทั้งหมดเจ็ดหัว และยิ่งในช่วงท้ายๆเราก็ยิ่งเจอหัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เจอทรัฟเฟิลคุณตาก็จะยื่นขนมบิสกิทให้บิลกินเป็นรางวัล บิลจึงดีใจขยันทำงานมากอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเลย

เราใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 2 ชั่วโมง พอเดินกลับมาถึงกระท่อมข้างหน้าแล้วคุณตาจึงเอาทรัฟเฟิลทั้งหมดที่เราหาเจอวันนี้ออกมาวางเรียงให้ดู พวกเราชมผลงานของบิลอย่างปลาบปลื้มสนุกสนาน มีหลายหัวที่คุณภาพดีและขนาดกำลังดี เราจึงขอซื้อจากคุณตาโดยตรงเลย (ทัวร์ล่าทรัฟเฟิลนี้ราคาไม่รวมทรัฟเฟิลที่หาเจอ) ซึ่งคุณตาก็คิดราคาให้เราถูกกว่าในตลาด คือกรัมละ 2 ยูโร เราเลือกมาคนละหัวๆละประมาณ 25 ถึง 30 ยูโร บางหัวคุณตาบอกว่ามันยังสุกไม่เต็มที่กลิ่นก็จะหอมไม่มาก คุณตาจะเอาไปฝังคืนในใต้ดินเพื่อให้มันสุกกว่านี้แล้วค่อยเก็บเกี่ยวใหม่ในวันหลัง จากนั้นคุณตาก็เปิดเหล้า Grappa ขวดใหม่เลี้ยงพวกเรากันเลย เป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานสมกับที่คาดหวังไว้อย่างมาก นอกจากจะได้เห็นว่าเขาเก็บเกี่ยวทรัฟเฟิลกันอย่างไรแล้ว ยังได้ทรัฟเฟิลสดๆที่เราหาเจอกันเองกลับบ้านในราคาที่ถูกอีกด้วย แนะนำว่าสายกินควรหาโอกาสเข้าป่าหาทรัฟเฟิลแบบนี้สักครั้ง รับรองว่าเป็นประสบการณ์เหนือฟ้าจริงๆ

ได้ทรัฟเฟิลที่บิลหามาแล้วยังไม่สะใจ สายกินสายทำอาหารอย่างเราอยากได้ทรัฟเฟิลกลับบ้านไปฝากสมาชิกอีก เพื่อนจึงบอกโรงแรมให้นัดดีลเลอร์ที่หาและขายทรัฟเฟิลเอาทรัฟเฟิลมาให้เราเลือกที่โรงแรมเช้าวันก่อนกลับ เราจะได้ของสดๆ สิบโมงเช้าคุณลุงก็มาถึงพร้อมทองคำในกระติก แต่ละหัวห่อกระดาษทิชชูอย่างดี คลี่ออกมาวางเรียงบนโต๊ะเป็นกลุ่มๆ มีกลุ่มที่ราคากรัมละ 1.20 1.60 1.80 ยูโร ราคาถูกกว่าของคุณตาเจียนฟรังโก้เมื่อวานอีก ราคาทรัฟเฟิลนี้เหมือนเพชร คือคิดราคาตามน้ำหนัก และหัวใหญ่ก็จะมีราคาต่อกรัมแพงกว่าหัวเล็ก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับคุณภาพด้วย คือต้องไม่นิ่มเละกลิ่นดี อันนี้ฉันเลือกไม่เป็น แต่ดูจากที่ดีลเลอร์ทั้งหลายเลือกและอธิบาย เขาจะเอามือบีบๆดู ถ้ามันยังไม่สุกกลิ่นก็จะไม่มาก ดีลเลอร์คนนี้เข้าป่าไปเก็บทรัฟเฟิลมาให้เราเมื่อคืน แล้วก็เอามาตอนเช้าเลย จึงสดมากๆ เราเลือกกวาดเอาพวกหัวใหญ่ๆจนหมด เหลือแต่หัวจิ๋วๆ ซึ่งที่จริงเอาไปผสมเนยหรือทำอาหารได้หลายอย่างที่ต้องสับบดผสมไป แต่เราอยากเอาพวกหัวโตๆไปสไลซ์ใส่บนหน้าพาสต้ามากกว่า ตอนเลือกซื้อเราทั้งจับคลำ ชั่งน้ำหนัก คิดราคา ต่อรอง ปรึกษากัน คิดแล้วคิดอีก หัวนี้ดีหรือหัวนั้น บวกราคาซิ อุ๊ยไม่เอาเปลี่ยนใจ เอหรือเอาดี เอาไปใส่เมนูนั้นเมนูนี้ นึกแล้วขำตัวเองว่าอย่างกับเลือกซื้อเพชรไม่มีผิด เป็นเรื่องซีเรียสอย่างๆมากๆ ท่าทางจะบ้าทั้งกลุ่ม คงมีแต่สายกินด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ

เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์สามวันที่หอมอบอวลไปด้วยทรัฟเฟิล นานๆจะได้กินเยอะๆจุใจเสียที เพราะเวลาไปกินในร้านอาหารจะแพงมาก ใครรักทรัฟเฟิลแนะนำให้มาเที่ยวเทศกาลนี้ที่ Alba สักครั้ง ไปทัวร์ล่าทรัฟเฟิลกับน้องหมา และซื้อกลับบ้านจากดีลเลอร์โดยตรง รับรองว่าเหนือฟ้าจริงๆ

NO COMMENTS