ตรงชายแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมันนีนี้มีแม่น้ำ Rhine เป็นเส้นแบ่งเขตแดน เมืองเล็กเมืองน้อยริมแม่น้ำนี้ของทั้งฝั่งสวิตฯและเยอรมนีมีน่ารักอยู่หลายแห่ง และหลายแห่งยังมีสะพานให้เดินข้ามไปมาระหว่างสองเมืองน่ารักในสองประเทศได้ด้วย เมืองที่ฉันชอบก็เช่นเมือง Rheinfelden, Laufenburg ที่เคยพาชมมาแล้ว ใครยังไม่เคยอ่านย้อนกลับไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้

และฉันก็บังเอิญได้ไปค้นพบเมืองเล็กริมแม่น้ำไรน์ทางฝั่งของเยอรมนีอีกเมืองหนึ่งที่ชื่อว่า Bad Säckingen ด้วยความอยากกินแท้ๆเพราะเมืองนี้มีร้านอาหารที่ฉันอยากไปลองชิมมากอยู่หนึ่งร้าน เขามีดาวมิชลินหนึ่งดวงและเปิดขายสัปดาห์ละ 4-5 วันเท่านั้น ทั้งร้านมีอยู่แค่ประมาณ 10 โต๊ะ พอดีฉันจองโต๊ะได้จึงต้องจัดทริปหาเรื่องไปเที่ยวชมเมืองเล็กนี้เสียด้วยเลย

ขับรถจากบ้านซูริคไปก็แค่ 45 นาทีเท่านั้น ตั้งเป้าไว้ที่เมือง Stein ทางฝั่งของสวิตฯ ซึ่งเมืองนี้ไม่มีอะไรให้เที่ยวชมเลยแม้แต่น้อย เราจึงจอดรถเอาไว้แล้วข้ามไปฝั่งเยอรมันกัน โดยเดินข้ามไปด้วยสะพานไม้โบราณที่เชื่อมระหว่าง Stein และ Bad Säckingen น่ารักมากๆ เป็นสะพานไม้ที่เก่าถึง 800 ถึง 900 ปีทีเดียว ถึงแม้จะได้รับการบูรณะมาต่อเนื่องแต่ก็ดูเก่าแก่มาก น่าทึ่งจริงๆที่คนสมัยเก่าสร้างสิ่งก่อสร้างได้แบบนี้ บนสะพานมีประวัติและมีการอธิบายเทคนิคการสร้างสะพานด้วย เลยได้รู้ว่าในสมัยก่อนใครจะใช้สะพานนี้ข้ามไปมาระหว่างสองเมืองก็ต้องจ่ายค่าผ่านทาง และเรือที่ล่องมาตามแม่น้ำไรน์หากจะต้องลอดใต้สะพานนี้ก็ต้องจ่ายเงินเช่นกัน

จึงไม่น่าแปลกใจที่เมือง Bad Säckingen จะแลดูมีฐานะ มีโบสถ์ใหญ่สวยงามตั้งอยู่เก่าแก่ ด้านในสวยอ่อนช้อยมาก และมีสีสันอ่อนหวานจริงๆ ตึกรามโดยรอบในเขตเมืองเก่าก็เป็นถนนคนเดินทั้งหมด เดินวนไปวนมาดูความสวยงามของตึกได้อย่างสนุกสนาน ริมแม่น้ำก็มีทางให้คนเดินและวิ่งออกกำลังเลียบแม่น้ำได้ มีหอคอยโบราณตั้งอยู่ริมน้ำด้วย

แต่เมืองนี้กลับเป็นที่รู้จักเพราะนิยายที่แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 ชื่อเรื่อง Der Trompeter von Säckingen หรือ The Trumpeter of Säckingen เนื้อเรื่องเกี่ยวกับคนเป่าทรัมเป็ตที่ยากจนแล้วตกหลุมรักหญิงสาวศักดินาสูงจึงไม่ได้รับการอนุญาตให้แต่งงานกัน ชายหนุ่มคนนี้เสียใจจึงย้ายไปอาศัยอยู่ในกรุงโรม และภายหลังได้การอวยยศโดยพระสันตะปาปา ก็เลยกลับมาแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ได้ เมืองนี้จึงได้ชื่อเล่นว่า Trumpeteer’s City ในตัวเมืองมีปราสาทเก่าที่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องคนเป่าทรัมเป็ตนี้ด้วย เราไปเดินชมรอบตัวปราสาท มีสวนสวยมากๆที่ตกแต่งไปด้วยคอนเซ็ปท์ของตัวโน๊ตดนตรีและทรัมเป็ต

เดินเที่ยวเล่นสักประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงก็ทั่วเมือง แล้วเราก็ไปกินอาหารเย็นที่ร้านที่จองไว้ คือร้าน Genuss-Apotheke อร่อยมากๆสมความตั้งใจดั้นด้นไปกิน ต้องให้คะแนนความคิดสร้างสรรค์และพรีเซนเทชั่นเต็มเลย ส่วนรสชาติก็อร่อยได้มาตรฐานติดดาว พี่ฉันชอบคือเชฟเจ้าของร้านดูแลควบคุมและปรุงเองทุกขั้นตอน เรามองเห็นเขาได้ตลอดเลยเพราะเป็นครัวเปิด ในครัวมีรูปเชฟใหญ่เบ้อเริ่มติดไว้บนผนังซึ่งเป็นรูปเดียวกับในเวบไซต์ เวลามองไปเห็นเชฟตัวจริงกำลังปรุงอาหารอยู่แล้วมีรูปเขาอยู่ข้างหลัง ต้องบอกว่าสินค้าตรงกับปกมากเลย

สรุปคือเมือง Bad Säckingen นี้เป็นเมืองเล็กที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่น่ารักมากๆและมีของกินอร่อยซ่อนอยู่ เป็นเมืองที่ชวนให้ประหลาดใจ เหมาะสำหรับไปเที่ยวแบบครึ่งวันสบายๆ และต้องจัดไว้ในโพยอันซีนจริงๆ

NO COMMENTS