จะบอกว่าอาหารโรมาเนียนี้มันไม่อร่อยเอาเสียเลย ดังนั้นกินเหนือฟ้าที่โรมาเนียมันก็จะเซ็งๆ หน่อย

แต่เรามาดูกันว่าประเทศเขากินอะไรกันดีกว่า เพราะถึงอาหารจะอร่อยไม่อร่อย การศึกษาวัฒนธรรมผ่านการกินก็ยังเป็นเรื่องสนุกน่าตื่นเต้นค้นหาสำหรับฉันอยู่ดี

โดยรวมคนที่นี่กินอาหารคล้ายออสเตรียและเยอรมัน คือจะเน้นเนื้อแดงเสียมาก โดยเฉพาะเนื้อหมู และเป็นเนื้อที่คุณภาพไม่ค่อยดีเสียด้วย จะติดมันค่อนข้างเยอะและเป็นคัทที่คุณภาพไม่ดีเท่าไหร่ การแปรรูปอาหารก็เยอะ เช่นนำมาทำเป็นไส้กรอก ซึ่งตระกูลอาหารแปรรูปและเนื้อแดงนี้หลังๆ ฉันจะหลีกเลี่ยงไม่ค่อยกินเท่าไหร่เพราะรู้สึกกินแล้วสุขภาพไม่ดี และเดี๋ยวนี้กินไปก็ไม่อร่อยเลยเพราะมันไม่ค่อยย่อยและพะอืดพะอมอย่างไรก็ไม่ทราบ สงสัยจะเป็นเพราะอายุเยอะแล้วจริงๆ

ดังนั้นจานเด่นของที่นี่ก็จะเป็นอาหารพวกเนื้อหมูเป็นหลัก แต่เขาจะรับเอาความเป็นต่างชาติเข้ามามากกว่าเยอรมันแท้ จานโปรดประจำชาติที่ร้านไหนๆ ก็ต้องมีเป็นเมนูชูชื่นก็คือซี่โครงหมูบาร์บีคิว ซึ่งจริงๆ จานนี้ฉันกินได้เรื่อยๆ เพราะเป็นจานโปรด แต่จะไม่ค่อยออกมากินนอกบ้านเพราะคิดว่าทำเองอร่อยที่สุดในโลก ดังนั้นจานเด่นที่สุดของเขาฉันก็เลยกลับไม่ได้ปลื้มมาก

จานเด่นจานอีกหนึ่งซึ่งมีอยู่ทั่วไปและเป็นจานที่ปกติชอบมากก็คือน่องเป็ดติดสะโพกทำแบบ Confit  แต่ถึงจานนี้จะเป็นจานเด่นของที่นี่ฉันกลับพบว่าไม่ใช่ทุกร้านทำอร่อย บางร้านทำแห้งและกระด้างเกินไป เครื่องเคียงก็ไม่ค่อยเข้ากัน จึงรู้สึกไม่ปลื้มเท่าไหร่อีกเช่นกัน

ที่มีกินกันเยอะอีกก็คือซุปหัวบีทรูทเหมือนซุป Borscht ของรัสเซีย และจานออร์เดิร์ฟรวมเครื่องจิ้มหลายอย่างซึ่งอันนี้ได้อิทธิพลตุรกีมาเต็มๆ เพราะจะมีมะเขือเทศย่างบดเหมือน Baba Ganoush และ Hummus และจานประจำชาติที่ต้องชิมอีกจานก็คือกะหล่ำปลีห่อหมูสับเอาไปอบหรือนึ่ง จริงๆ จานนี้ควรจะอร่อยทีเดียว เพียงแต่อย่างที่บอกว่าประเทศนี้เขาคงจะใช้แต่เนื้อที่คุณภาพไม่ค่อยดีแล้วติดมันเยอะ ดังนั้นหมูสับข้างในจึงเป็นเนื้อหมูที่มีแต่มันเยอะเกิน พอชิมรู้รสว่าอร่อยแล้วฉันจึงลอกกินแต่กะหล่ำปลี เหลือหมูสับทิ้งเอาไว้เต็มเลย

ขนมที่นี่ก็จะคล้ายขนมเยอรมันและออสเตรียอีกเช่นกัน ก็จะเป็นพวกแป้งทอดหรือนึ่งลูกกลมๆ มีแยมผลไม้หรือน้ำตาลโรย รสชาติก็งั้นๆ กินแล้วมีแต่แป้งกับน้ำตาลต้องระวัง ไม่อย่างนั้นอ้วนฟรี

แต่ที่ดีของที่นี่ก็คืออาหารเช้าแทบทุกโรงแรมเลยเสิร์ฟมาอย่างอลังการงานสร้างมาก นับว่าดีกว่ามาตรฐานอาหารเช้าของหลายๆ ประเทศทีเดียว โรงแรมที่ฉันเลือกอยู่ทุกโรงแรมมีอาหารเช้ารวมอยู่ในราคาห้อง แต่เนื่องจากเป็นช่วงของโควิดทุกโรงแรมจึงไม่สามารถให้คนนั่งกินรวมกันในห้องอาหารได้และไม่สามารถจัดบุฟเฟ่ต์ เขาจึงให้เราสั่ง A la carte ได้โดยเลือกเมนูเอาไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืนเลย แล้วนำมาเสิร์ฟในห้องนอนหรือห้องอาหารส่วนตัวตามเวลาเช้าที่เราแจ้งไว้ ซึ่งพอเป็นการสั่งอาหารเป็นจานๆ แบบนี้แล้ว เมนูที่เราเลือกได้จึงค่อนข้างอลังการทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Egg Benedict หรือโรงแรมที่ฉันชอบที่สุดในทริปนี้อาหารเช้ามีน่องเป็ดอบ Confit แกล้มหัวผักกาดดองหวานให้เลือกกันแต่เช้าทีเดียว ซึ่งกลายเป็นเขาทำจานนี้ได้อร่อยที่สุดในทริป หรือจะเลือกเป็นชุดปลาซาลมอนมากับไข่คาเวียร์ยังได้ ครัวซองต์และเครื่องเคียงขนมปังต่างๆ ก็นับว่าคุณภาพดีทีเดียว นับว่ากลับตาลปัตรกับคุณภาพอาหารมื้อกลางวันและเย็นทั่วไปอย่างไม่คาดคิด

สำหรับอาหารหรูของประเทศนี้ท่าทางจะเป็นอาหารอิตาเลี่ยน เพราะเท่าที่ศึกษาดูรีวิวร้านอาหารที่มีชื่อเสียงเป็นที่เชิดหน้าชูตาชูตาของประเทศไม่ว่าเมืองไหนก็มักจะเป็นอาหารอิตาเลียน หลังจากที่กินอาหารโรมาเนียรสชาติไม่อร่อยคุณภาพไม่ดีมาหลายมื้อฉันจึงตัดสินใจลองอาหารอิตาเลียนดูหนึ่งมื้อ ปรากฏว่าดีสมกับที่เขาโฆษณาจริงๆ อาหารทะเลสด มีให้เลือกหลากหลาย การทำพาสต้าอร่อย ตอนหลังฉันจึงสรุปว่าถ้าไปโรมาเนียแล้วอยากกินอาหารอร่อยและไม่อ้วนฟรีให้กินอาหารอิตาลีไปเลย

อยู่มาเก้าวัน อย่างที่บอกว่ากินไม่ค่อยจะอร่อยสักวัน แต่ฉันได้จองร้านอาหารที่เขาว่ากันว่าดีที่สุดของโรมาเนียเอาไว้คืนสุดท้าย อยู่ที่เมืองบราชอฟ ชื่อร้าน Bistro de l’Arte เป็นอาหารสมัยใหม่ค่อนข้างออกไปทางฝรั่งเศสและอิตาลีประยุกต์ เชฟเป็นผู้หญิง ปรากฏว่าประสบความสำเร็จมากเอาในคืนสุดท้ายนี่เอง ร้านนี้อร่อยจริงๆ บทสรุปของกินเหนือฟ้าจึงออกมาว่า ไปโรมาเนียให้กินอาหารอิตาลีและอาหาร Modern fusion อย่าไปกินเลยอาหารพื้นเมืองเพราะจะอ้วนฟรี แค่ชิมให้รู้มื้อสองมื้อก็พอ

ขอจานเปล่ามาแบ่งอาหาร ร้านน่ารักมาก นอกจากเต็มใจแล้วยังจัดผักแต่งจานเปล่ามาให้อีกด้วย!

NO COMMENTS