วันนี้แหละ เดินทางแบบเหนือฟ้ายังมีฟ้าของจริง!
เพราะขอทำตัวเนียนๆเป็นมหาเศรษฐี Jet Set เลียนแบบชาวโมนาโคสักนิดโดยการนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปสนามบินค่ะ!
โมนาโคเป็นประเทศที่ไม่มีสนามบินเป็นของตัวเอง สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือสนามบินนานาชาติเมือง Nice ของฝรั่งเศสซึ่งอยู่ห่างไปเพียงขับรถแค่ครึ่งชั่วโมง อันที่จริงการเดินทางไปสนามบินก็ไม่ลำบากเลย มีให้เลือกหลายแบบหลายราคา แท็กซี่ก็ประมาณ 80 ยูโร ถ้ามาหลายคนเช่ารถตู้ที่นั่งแปดคนหารออกมาแล้วก็คนละ 10 กว่ายูโร หรือจะนั่งรถไฟก็ประมาณ 14 ยูโรเท่านั้น จะว่าไปจากโรงแรมที่ฉันอยู่เดินเพียงแค่ 2 นาทีก็ถึงสถานีรถไฟ Gare de Monaco ซึ่งนั่งตรงมาสนามบินได้เลย แต่คราวนี้มันเกิดเบื่อขึ้นมาอ่ะ ฉันมาโมนาโคหลายครั้งแล้ว เมืองเล็กๆเห็นทุกอย่างจนเบื่อ จึงอยากจะหาอะไรทำแปลกใหม่ให้ตื่นเต้นหน่อย ทริปนี้จะได้มีความทรงจำใหม่ๆไม่เหมือนเดิมไปนานๆ นึกขึ้นมาได้ว่าที่นี่มีบริการแท็กซี่เฮลิคอปเตอร์ไปส่งที่สนามบินได้ด้วย สนนราคา 160 ยูโร (มันก็แพงกว่าแท็กซี่นิดเดียวเองน้า) จึงจัดการให้โรงแรมจองเลย
เฮลิคอปเตอร์นี้มีออกทุกครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาบินแต่ 5 นาทีเอง! ฉันจะบินตอนบ่ายโมงครึ่งบริษัทเฮลิคอปเตอร์ก็ส่งรถตู้ดำอย่างโก้มารับที่โรงแรมตอนบ่ายโมงตรง ขับพาไปที่ Heliport ริมทะเลใจกลางเมือง (ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึง)
Heliport นี้เหมือนสนามบินขนาดจิ๋วที่มีทุกอย่างเหมือนสนามบินเลย เดินเข้าประตูตึกไปปุ๊บก็ถึงเคาน์เตอร์เช็คอิน จ่ายเงินแล้วเขาก็ออกบอร์ดดิ้งพาสให้ แล้วเดินไปเคาน์เตอร์ตำรวจตรวจคนผ่านแดนซึ่งอยู่ตรงข้ามเพื่อตรวจพาสปอร์ตและบัตร Resident permit ของสวิสเหมือนขั้นตอนปกติที่สนามบินเลย จากนั้นก็เดินไปอีกสามก้าวเพื่อเอ็กซเรย์กระเป๋า แล้วผ่านเข้าไปห้องเล็กๆมีเก้าอี้เพียงห้าที่นั่ง เปรียบเสมือนเป็นเกท เห็นเฮลิคอปเตอร์จอดรออยู่แล้ว ตอนแรกก็นึกว่าจะมีคนไปแค่สามคนที่รออยู่ แต่สักครู่ก็มีคนทยอยมาเพิ่ม ปรากฏว่าที่นั่งหกที่เต็มหมด นี่แสดงว่าเฮลิคอปเตอร์นี้คือการเดินทางแบบธรรมด๊าธรรมดาของเศรษฐีชาวโมนาโคจริงๆ แอบชำเลืองดูทุกคนที่มาขึ้นก็ท่าทางเป็นมหาเศรษฐีกันจริงๆด้วย ทั้งนักธุรกิจหนุ่มกับแฟนสาวที่สวยเหมือนนางแบบ คุณปู่คุณย่าที่แลดูเป็นเศรษฐีผู้ดีเก่า และคุณป้าที่หิ้วกระเป๋าราคาหลายแสน จะมีก็แต่บล็อกเกอร์ไทยตัวเล็กคนเดียวนี่แหละที่ตีเนียนผสมไปด้วย
พอถึงเวลาเขาก็เปิดประตูให้เราเดินไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ฉันขอพนักงานพื้นดินให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกให้หน่อย นางก็ใจดี๊ใจดีถ่ายให้เยอะแยะ
เดินไปขึ้นเป็นคนสุดท้ายจึงได้ที่นั่งริมหน้าต่าง ดีใจมากเพราะจะได้ถ่ายวิดีโอถนัดๆ ปกติฉันชอบนั่งเฮลิคอปเตอร์มากอยู่แล้ว เลยสนุกสุดๆ ได้ชมวิวชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนเห็นเมืองมอนติคาร์โลจากนอกทะเลเข้ามา บินเลียบชายฝั่งไปเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นก็ถึงสนามบินเมืองนีสซึ่งอยู่ริมทะเลเช่นกัน จะว่าไปแล้วสองจุดนี้มันห่างกันเพียงแค่ประมาณสองอ่าวเอง มันจึงใช้เวลาบินแค่ 5 นาที
เฮลิคอปเตอร์มาจอดตรงจุดจอดบนรันเวย์ซึ่งมีรถตู้สีดำพร้อมผู้โดยสารที่จะบินกลับไปมอนติคาร์โลรออยู่แล้ว ทีเด็ดก็คือฉันแจ้งเขาไว้ว่าไฟลท์ที่จะบินกลับซูริกนี้มีฉันบอร์ดดิ้งพาสแล้วและไม่มีกระเป๋าต้องโหลดในเครื่อง จึงมีพนักงานขับรถตู้ดำมารับฉันแยกต่างหากไปคนเดียว โดยพาเดินเข้าไปในตึกริมรันเวย์นั่นแหละ มีเจ้าหน้าที่ตรวจบอร์ดดิ้งพาสที่เซฟไว้ในมือถือ และเอ็กซเรย์กระเป๋าอีกครั้ง แล้วรถตู้ก็พาแล่นเข้าไปที่ตึก Terminal โดยจอดที่หน้าเกทเลย แล้วเขาพาเดินไปทางลัดถึงเกทเลย ไม่ต้องผ่านพิธีการกระบวนตรวจอะไรในสนามบินอีก เรียกว่ามาถึงสนามบินแบบวีไอพีจริงๆ
สรุปแล้วเวลาทั้งหมดที่ใช้เดินทางจากปากประตูโรงแรมจนถึงหน้าเกทคือ 45 นาทีได้ ถ้านั่งรถไฟมาก็จะใช้เวลาทั้งหมดอาจจะประมาณ 1 ชั่วโมง คือมันก็ไม่ได้เร็วกว่ากันมากแต่มันสบายและ Exclusive มาก ไม่ต้องเข้าแถวเข้าคิวอะไรเลยและมีคนถือกระเป๋าเดินตามให้เหมือนบอดี้การ์ดตลอด สักครั้งในชีวิตนะ ไหนๆก็มาเมืองที่มีจำนวนมหาเศรษฐีต่อพลเมืองมากที่สุดในโลกแล้วก็ขอแอบทดลองใช้วิถีชีวิตแบบมหาเศรษฐีดูสักครั้งเถอะ
ป.ล. แอบรู้สึกผิดเหมือนกันที่เดินทางโดยการทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์มากโดยไม่จำเป็น เดี๋ยวไปปลูกต้นไม้เพิ่มนะคะ
