เม็กซิโกซิตี้เป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆของโลกด้วยจำนวนพลเมืองร่วมสิบล้านคน ถ้านับชานเมืองโดยรอบด้วยก็ 20 กว่าล้าน ขึ้นชื่อว่ารถติดมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่งไม่น้อยหน้ากรุงเทพฯ ชื่อเสียงเรื่องความปลอดภัยก็ไม่ดี หลังๆมีข่าวนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายค่อนข้างบ่อย ใครรู้ว่าฉันไปลุยมาหลายวันก็มาถามกันใหญ่ว่าน่ากลัวไหม

จะอย่างไรไม่รู้ ฉันไม่เห็นรู้สึกว่าเมืองเขาน่ากลัวเลย รู้สึกว่ามันมีอะไรหลายอย่างคล้ายกรุงเทพฯมากๆ คือมีย่านหลายย่านที่ให้อารมณ์ต่างๆกันไป มีความหลากหลายให้เลือก ทั้งย่านเมืองเก่าที่มีเรื่องราวมีประวัติศาสตร์ Zócalo (เกาะรัตนโกสินทร์?) ย่านเมืองใหม่ทันสมัยตึกระฟ้า Reforma (สาทร?) ย่านพักอาศัยคนท้องถิ่น Juárez, Roma (อารี?) ย่านอาร์ตติสกิ๊บเก๋คือ San Angel และ Coyoacán (ตลาดน้อย?) ย่าน expat ที่ต่างชาตินิยมอยู่คือ Polanco (สุขุมวิท?) และย่านที่คนฐานะลำบากอยู่กัน (คลองเตย?) ซึ่งจะมอมๆหน่อย ดังนั้นจะเหมารวมว่าไม่ปลอดภัยหรือรถติดแหลกลาญไปทั้งเมืองมันก็ไม่ถูก อยู่ที่เราจะเลือกไปไหน เวลาใด อย่างไรมากกว่า

ย่านที่ฉันพักคือ Juárez ติดกับ Roma (ใครได้ดูหนังรางวัลออสการ์เรื่อง Roma อาจจะพอจินตนาการเห็นภาพได้แม้ในเนื้อเรื่องจะไม่ได้เป็นเวลาปัจจุบัน) ซี่งเป็นย่านเก๋ ตึกเก่า ต้นไม้เยอะ ที่บรรดาตึกเก่าสวยนั้นแปลงมาเป็นอพาร์ตเมนต์สวยทันสมัย ร้านอาหารคาเฟ่ฮิป โรงแรมเท่ ร้านอาหารเก๋ เดินได้สบายใจแม้กลางคืน และรถไม่ติดเลย จอดรถทิ้งข้ามคืนริมถนนสบายๆ เดินไปเที่ยวย่านต่างๆก็ได้สะดวก เราเดินไปย่าน Reforma เมืองย่านธุรกิจมีตึกสูงก็ใกล้ และเดินไปสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ ก็สะดวกมาก

วันหนึ่งเราเดินไกลไปถึง Zócalo เมืองเก่าเลย ระหว่างทางก็แวะชมจุดสำคัญต่างๆของเมืองไปด้วย ตึกสูงที่สุดของเมือง ตึกเก่าที่กลายมาเป็นร้านอาหาร แลนด์มาร์คต่างๆ โดยตั้งใจย้วยผ่านย่านที่ชาวบ้านอยู่กันจริง

ก็เห็นคนโฮมเลสเอาผ้ามากางเต๊นท์นอน หรือนอนกันตามถนน น่าสงสารมากกว่าน่ากลัว ผ่านย่านที่คนซื้อขายของกินกันแบบรถเข็นริมถนนบนฟุตบาธ เหมือนกับบ้านเราไม่มีผิด ดังนั้นฉันว่ามันไม่ได้น่ากลัวเลย ถ้าเราไม่ชอบหรือไม่มั่นใจก็อย่าไปแถวนั้น ต่างคนต่างอยู่ อย่างในกรุงเทพฯเราก็ผ่านชุมชนต่างๆเป็นเรื่องปกติ เลี้ยวออกจากห้างสุขุมวิทเข้าซอยลัดก็เจอชุมชนแล้ว ไม่เห็นต่างกันเลย ฉันกลับประทับใจคนเม็กซิกันมากๆที่ทุกคนดูเยือกเย็นยิ้มแย้ม ใจดีมีน้ำใจมากๆ ไม่ว่าคนขายของ หรือคนที่เราเดินผ่าน พ่อค้าขายของกวาดน้ำสกปรกหน้าร้านตัวเองอยู่ พอเราเดินเข้าไปใกล้เขารีบหยุดแล้วยิ้มผายมือให้เราเดินผ่านไปก่อน คนบางชาติจะบ่นด่าเราด้วยซ้ำที่เดินผ่านไปทำให้เขาต้องหยุดกวาด ดีไม่ดีกวาดขยะใส่เราเสียเลย

ได้ไปเดินชมเมืองเก่าที่มี Templo Mayor ซากเมืองโบราณอยู่กลางแจ้งให้ชม อันนี้ก็แนะนำอย่างยิ่ง คิวเหมือนจะยาวแต่ไหลเร็ว ได้ดูประวัติศาสตร์แบบสะดวก วันที่ไปตรงลานนั้นมีงานอะไรไม่รู้ มีคนแต่งตัวแนวพ่อมดหมอผีทำพิธีสาดน้ำมนต์ให้ผู้คนแบบปัดเป่าอะไรเต็มไปหมด ติดกันมีวิหารใหญ่ประจำเมือง มันสะดวกมากในการเที่ยว ถ้าไม่อยากเดินก็เรียกอูเบอร์ มีเยอะมากไม่เคยต้องรอนานและถูกด้วย

แต่สถานที่ๆขอแนะนำอย่างที่สุดให้ทุกคนไปคือพิพิธภัณฑ์ National Museum of Anthropology เพราะจะได้ชมเรื่องราวของประวัติศาสตร์เม็กซิโกทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องอารยธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Aztec, Maya, Mexica, Toltec, Teotihuacán ต่างกันอย่างไร มีวิวัฒนาการเกี่ยวกันอย่างไร ซากปิระมิดซากเมืองต่างๆเป็นของอารยธรรมไหน มันจะช่วยให้กระจ่างหมดเลย เวลาไปชมสถานที่จริงทีหลังจะเข้าใจและสนุกขึ้น ฉันเคยงงมานานกับสารพัดอารยธรรมพวกนี้ก็ได้เข้าใจ แนะนำเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องบอกก่อนว่าควรเผื่อเวลาไว้เลยอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทำได้ดีมากๆ ทั้งสนุกและมีประโยชน์จริงๆ

กลับมาอีกย่าน ตอนไปกินร้าน Pujol ร้านอาหารที่ดีที่สุดของเม็กซิโกที่อยู่ย่าน Polanco ก็ได้เดินเล่นเห็นย่านเก๋บ้านเศรษฐี น่าจะเป็นย่านนิยมของต่างชาติที่มาทำงาน มีร้านรวงยี่ห้อแบรนด์เนมเต็ม เป็นตึกเตี้ยเดินช้อปได้สองฝั่งเหมือนเบเวอลี่ฮิลล์ หรือจะประมาณสุขุมวิทก็อาจจะได้

ดังนั้นโดยรวมแล้วเม็กซิโกซิตี้เป็นเมืองมหานครใหญ่ที่มีทุกอย่าง มีทุกมุมทุกด้านไม่ต่างจากกรุงเทพฯเลย ฉันว่าเขาดีกว่าด้วยซ้ำตรงที่มีสวนสาธารณะเยอะ ดูร่มรื่น และคนใช้งานพักผ่อนหย่อนใจกันในชีวิตประจำวันจริงๆ ดูเป็นมหานครที่ให้อยู่ก็อยู่ได้สบายๆเลยค่ะ จะไปไหนอะไรจะเกิดก็เกิด เราคงต้องรอบคอบระวังตัวเองทุกที่ ข่าวความน่ากลัวที่เราได้ยินมันก็มีอยู่จริง แต่มันไม่ใช่เมืองที่บรรยากาศมาคุ แลดูน่ากลัว หรือดูสกปรกอันตรายเลย ใครอยากมาเที่ยวแล้วกลัวบอกเลยว่าไม่ต้องลังเล สำหรับฉัน จะต้องกลับไปอีกแน่นอน เพราะหลงรัก México City ไปแล้ว เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ในโลกไม่กี่เมืองที่พูดได้เต็มปากเต็มคำเลย ว่าชอบมากจริงๆ

NO COMMENTS