กิจกรรมคลายร้อนในหน้าร้อนอย่างหนึ่งที่สนุกมากๆของคนสวิสก็คือการว่ายน้ำในแม่น้ำ ว่ายน้ำในทะเลสาบก็ว่าเด็ดแล้ว แต่บอกเลย.. ว่ายในแม่น้ำนี้แจ๋วกว่าเยอะเลย เพราะมันเป็นการปล่อยตัวให้กระแสน้ำไหลพาล่องไป พอถึงปลายน้ำก็ปีนขึ้นตลิ่งเดินกลับไปต้นน้ำแล้วกระโดดลงน้ำใหม่ วนไปแบบนี้จนกว่าจะพอใจหรือเหนื่อยหมดแรง
หน้าร้อนปีนี้น้องสาวและหลานสาวของฉันมาเยี่ยม หลานร้องขอมาตั้งแต่หลายเดือนล่วงหน้าว่า ทริปนี้ช่วยพาหนูไปว่ายน้ำในแม่น้ำ Rhein หน่อย แบบที่ป้าเคยพาคุณแม่ไป ฉันจึงต้องขอให้เพื่อนรักผู้เชี่ยวชาญการณ์นี้จัดแจงให้ เพราะเขาชำนาญแถวแม่น้ำ Rhein ตกเย็นเลิกงานเราไปเจอกันที่จุดจอดรถริมแม่น้ำ แล้วเดินไปในป่าเลียบตลิ่งขึ้นไปทางต้นน้ำ พอถึงที่เหมาะมีชายหาดเป็นกรวดหินทุกคนก็เดินลุยลงไปในแม่น้ำ แล้วลอยคอว่ายน้ำให้กระแสน้ำพัดไหลตามน้ำไปประมาณ 2 กิโลเมตร เย็นชื่นใจและสนุกมากๆ พอถึงตลิ่งที่ปีนกลับขึ้นมาได้เราก็ขึ้นแล้วเดินย้อนไปทางต้นน้ำอีก เราลงน้ำจากทางฝั่งสวิตฯแต่ก็เห็นคนฝั่งเยอรมนีมาว่ายน้ำเช่นกัน เรียกว่าเราว่ายน้ำอยู่บนเส้นแบ่งพรมแดนของสองประเทศเลยทีเดียว ดูคลิป และ คลิป
เราเตรียมสลัดและไส้กรอกไปก่อไฟปิ้งกินเป็นอาหารเย็นด้วย ใช้วิชาลูกเสือก่อไฟด้วยกิ่งไม้ในป่าและเอาไส้กรอกเสียบไม้ย่างกิน เป็นปิกนิกที่สนุกมาก กินอิ่มแล้วก็กระโดดลงน้ำอีกรอบหนึ่ง กิจกรรมแบบนี้คนสวิสทำกันเยอะมาก เลิกงานก็ไปไม่ต้องมีพิธีรีตอง หรือเสาร์อาทิตย์ก็ไปกันทั้งครอบครัว การว่ายน้ำในแม่น้ำนี้แลดูเหมือนง่ายไม่เหนื่อย ซึ่งก็จริง แต่ก็ต้องคอยอ่านกระแสน้ำและระวังตัวพอสมควร ประมาทไม่ได้ ตอนเตรียมจะขึ้นฝั่งก็ต้องกะระยะเพื่อว่ายเข้าฝั่งให้ดี รอบสองฉันลอยละล่องเพลินไปหน่อย เวลาปล่อยตัวตามน้ำเราจะไม่รู้ว่าน้ำแรง เห็นตลิ่งอยู่ข้างหน้าแล้วนึกว่าเดี๋ยวใกล้ๆค่อยว่ายจากกลางแม่น้ำเข้ามา ปรากฎว่าว่ายตัดกระแสน้ำไม่ทัน น้ำแรงมาก ออกแรงว่ายสุดแรงอย่างไรก็ไม่สามารถตัดเข้าฝั่งทัน จนใจเริ่มไม่ดี เริ่มเหนื่อย ก็บอกตัวเองว่าอย่าตระหนกและอย่าใช้แรงจนหมด พยายามเอาหัวขึ้นมาดูทิศทางเอาไว้ โชคดีเห็นว่าปลายน้ำออกไปยังมีอีกตลิ่งให้ขึ้นได้ จึงเล็งแล้วว่ายตัดทะแยงพร้อมให้กระแสพาตัวไปด้วยพร้อมกัน พอตั้งใจคำนวณและกะระยะดีแล้วจึงเข้าฝั่งได้พอดีที่ตลิ่งถัดไป แต่ก็เล่นเอาเหนื่อยพอควร
เมื่อหลายปีก่อนที่เมืองเบิร์นเมืองหลวง มีผู้หญิงสวิสคนหนึ่งมีไอเดียว่า ตอนเช้าไปทำงานแทนที่จะเดินไปหรือขึ้นรถเมล์หรือขี่จักรยานไป เธอเปลี่ยนไปว่ายน้ำแทน โดยที่จากบ้านเธอเดินไปริมตลิ่งแม่น้ำ เอาข้าวของทุกสิ่งอันใส่เป้หลังกันน้ำแล้วก็ว่ายน้ำไปจนถึงจุดที่ใกล้ที่ทำงาน แล้วก็ขึ้นมาเช็ดตัวเปลี่ยนชุดไปทำงาน เย็นก็ว่ายน้ำกลับบ้าน ทำแบบนี้ตลอดหน้าร้อน พอออกข่าวไปมากเข้า เดี๋ยวนี้เลยมีคนไปทำงานโดยการว่ายน้ำแบบนี้บ้างเยอะทีเดียวจนเป็นกิจกรรมประจำเมืองไปแล้ว ฉันเล่าเรื่องนี้ให้น้องสาวฟัง น้องสาวบอกว่าผู้หญิงคนนี้คงจะเป็นคนที่มีประสิทธิภาพมากทีเดียว เพราะกิจกรรมเพียงหนึ่งอย่างเธอได้ทั้งออกกำลังกาย ได้ทั้งเดินทางไปที่ทำงาน และได้อาบน้ำไปด้วยในตัว สามกิจกรรมในหนึ่งเดียว อะไรจะประหยัดเวลาขนาดนั้น แบบนี้คงมีแต่ที่สวิตฯเท่านั้น!
