Monday, May 20, 2024

ถึงแม้ Republic of Ireland จะเป็นประเทศที่มีที่น่าเที่ยวเยอะมาก ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และฉันก็หมายใจอยากจะไปชมให้ครบทุกสิ่ง แต่ทริปแรกกับประเทศที่พลเมืองน้อยเพียงแค่ห้าล้านคนแต่มากมายไปด้วยสิ่งน่าสนใจนี้ สิ่งที่ฉันเลือกเป็นอันดับแรกก่อนอื่นใดคือ การขับรถเที่ยวชมทิวทัศน์ภูมิประเทศไปตามถนนชนบทเส้นเล็กๆทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ที่ทั้งวิวและทั้งเส้นทางนั้นมหากาพย์จริงๆ

ฉันเคยมาประเทศสโลวีเนียแล้วเมื่อหลายปีก่อน ได้ไปเที่ยวเมืองหลวง Ljubljana แล้วประทับใจมากกับความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยและความลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์วัฒนธรรมกับโลกสมัยใหม่ ฉันชอบจนตั้งใจเอาไว้ว่าอยากจะกลับมาอีกเพื่อทำความรู้จักกับประเทศนี้มากขึ้น จุดหมายที่ตั้งใจเอาไว้ว่าอยากจะมาชมก็คือทะเลสาบ Bled ไม่ไกลจากเมืองหลวง เพราะทะเลสาบเล็กจิ๋วแห่งนี้สวยติดตาตรึงใจมานานแล้ว

Florence หรือ Firenze เป็นเมืองหลวงของแคว้น Tuscany ในอิตาลี และเป็นหนึ่งในเมืองหลักที่นักท่องเที่ยวที่มาอิตาลีต้องมาเยี่ยมชม เนื่องจากมีทั้งเมืองเก่ามรดกโลก เป็นเมืองศูนย์กลางแฟชั่นและความทันสมัยที่จะเป็นรองก็แต่มิลานเท่านั้น และยังมีงานศิลปะชิ้นเอกระดับโลกที่ใครๆต่างก็ต้องเคยได้ยิน เช่นรูปหินอ่อนแกะสลักเดวิดโดย Michaelangelo สำหรับฉันนั้น กรุงโรมคือประวัติศาสตร์ มิลานคือแฟชั่นและชีวิตทันสมัย เนเปิลส์คือเมืองตากอากาศ และฟลอเรนซ์คืองานศิลปะ

Bratislava เมืองหลวงของประเทศ Slovakia ในปัจจุบัน มีเพื่อนชาวสโลวักเคยบอกฉันว่า มันเป็นเมืองหลวงที่เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ!

มีเมืองเล็กแฝดแห่งหนึ่งที่มีความแปลกประหลาดไม่เหมือนเมืองอื่นใด เมืองแฝดนี้ชื่อว่า Baarle-Nassau ของประเทศเนเธอร์แลนด์และ Baarle-Hertog ของเบลเยี่ยม สองเมืองนี้อยู่ “ติด” กัน และผสมกลมกลืนกันจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองเดียวกัน เพราะว่าความพิเศษก็คือ สองเมืองนี้เป็น Enclaves หรือดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศที่เข้าไปอยู่เป็นไข่แดงตรงกลางของประเทศอื่น ในกรณีนี้ก็คือ Baarle-Nassau ของเนเธอร์แลนด์มีดินแดนไข่แดง 7 ฟองอยู่ในพื้นที่ของเบลเยี่ยม และ Baarle-Hertog ของเบลเยี่ยมก็มีไข่แดง 22 ฟองอยู่ในเนเธอร์แลนด์ ด้วยความที่เป็นไข่แดงของกันและกันแบบนี้ ในเมืองทั้งสองแห่งนี้จึงมีเส้นประบอกการแบ่งพรมแดนอยู่ทั่วไปทั้งเมือง

Glorenza หรือ Glurns ในภาษาเยอรมันเป็นเมืองเล็กๆหรืออันที่จริงน่าจะเป็นเพียงแค่ตำบลมากกว่า เพราะมีขนาดจิ๋วเพียงแค่ 13 ตารางกิโลเมตรและมีพลเมืองอยู่ไม่ถึง 900 คนเท่านั้นเอง ตั้งอยู่ในจังหวัด South Tyrol ของเขต Trentino-Alto Adige ประเทศอิตาลี และอยู่ติดกับชายแดนสวิตเซอร์แลนด์ เรียกว่าไกลปืนเที่ยงมากๆและไม่น่าจะมีคนเคยได้ยินชื่อเมืองนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าใครได้แวะไปแล้วจะตกใจในความน่ารักทีเดียว

มือง Nuremberg หรือ Nürnberg ในภาษาเยอรมัน คือเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากมิวนิค ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ฉันรู้จักเมืองนี้ครั้งแรกก็ด้วยชื่อเสียงของเขาเกี่ยวกับไส้กรอก เขามีไส้กรอกประจำเมืองเป็นแบบสีขาวและใช้ต้มแทนการย่างหรือทอด แต่เมืองนี้มีความน่าสนใจมากกว่าแค่ไส้กรอก เขาเคยรุ่งเรืองมากเมื่อ 500 กว่าปีมาแล้ว แต่น่าเสียดายที่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองตึกรามบ้านช่องในเมืองถูกทำลายไปถึง 90%

ทริปนี้เป็นทริปเที่ยวประจำปีของกลุ่มร้องเพลงของผู้ชายในหมู่บ้าน สามีฉันเป็นสมาชิกร้องเพลงอยู่ในกลุ่มนี้จึงได้รับเชิญให้ไปด้วย กลุ่มร้องเพลงที่เรียก Männerchor นี้ เป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่ในโลกนี้น่าจะมีเหลืออยู่แต่ในสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นที่ยังรวมตัวกันอย่างจริงจังแบบนี้ และบางทีเขาก็จัดทริปไปเที่ยวด้วยกันประจำปี ปีนี้ฉันได้ไปกับเขาด้วยที่ Tannheim ในออสเตรีย

มอนเตเนโกรประเทศริมทะเล Adriatic ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย และเพิ่งประกาศเป็นประเทศอิสระเมื่อปี 2006 นี้ หลายคนอาจจะจำภาพประเทศนี้จากภาพยนตร์เจมส์บอนด์ตอน Casino Royale ที่เข้าฉายในปี 2006 ปีเดียวกับการตั้งเป็นประเทศ ว่าเป็นแหล่งฟอกเงินของบรรดาเศรษฐีทั่วโลก มีคาสิโน มีบรรดาเรือยอช์ทสุดหรูและรถซูเปอร์คาร์ที่จอดกันเต็มท่าเรือ ในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น แม้เศรษฐกิจของมอนเตเนโกรจะดีกว่าประเทศยุโรปตะวันออกหลายแห่ง แต่ก็มีชื่อเสียงในเรื่องความไม่โปร่งใส ความฟอกเงิน และความไม่เป็นประชาธิปไตยพอสมควร แต่อันที่จริงมอนเตเนโกรมีธรรมชาติและเมืองเก่าที่สวยงามจนได้รับยกย่องเป็นมรดกโลกหลายแห่งทีเดียว

ตรงชายแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมันนีนี้มีแม่น้ำ Rhine เป็นเส้นแบ่งเขตแดน เมืองเล็กเมืองน้อยริมแม่น้ำนี้ของทั้งฝั่งสวิตฯและเยอรมนีมีน่ารักอยู่หลายแห่ง และหลายแห่งยังมีสะพานให้เดินข้ามไปมาระหว่างสองเมืองน่ารักในสองประเทศได้ด้วย และฉันก็บังเอิญได้ไปค้นพบเมืองเล็กริมแม่น้ำไรน์ทางฝั่งของเยอรมนีอีกเมืองหนึ่งที่ชื่อว่า Bad Säckingen