Monday, May 20, 2024

เมือง Chamonix-Mont-Blanc หรือที่ทุกคนชอบเรียกกันสั้นๆว่า Chamonix นี้ เป็นเมืองอยู่ในภูเขาสูงของฝรั่งเศสทางตะวันออกที่ติดกับสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลีโดยมีเทือกเขาแอลป์กั้น เป็นเมืองสกีแห่งแรกๆของประเทศฝรั่งเศสทีเดียว และเป็นเมืองแรกในโลกที่จัดการแข่งขันวินเทอร์โอลิมปิกเมื่อปี 1924

อันประตูที่เรียกกันว่า The Door of the Devil แห่งตูรินนี้ เป็นประตูไม้หนาหนักแกะสลักสวยงามสำหรับเปิดเข้าไปในตึกซึ่งปัจจุบันเป็นธนาคาร Banca Nazionale del Lavoro ตรงกลางประตูมีโลหะหล่อเป็นห่วงสำหรับเคาะประตูแบบบ้านฝรั่งทั่วไป แต่เจ้ารูปหล่อโลหะนี่แหละ มันเป็นรูปใบหน้าของปีศาจ มีเขา คิ้วขมวด ตาเขม็ง ตรงปากมีงู 2 ตัวออกมาขดเป็นวงม้วนงับกันกลายเป็นห่วงสำหรับเคาะประตู

ครั้งที่ไปเมือง Turin เป็นครั้งแรกนั้นก็ตั้งใจว่าจะไปชมผ้าห่อศพแห่งเมืองตูริน อันโด่งดังและลึกลับ แต่แปลกที่หาข้อมูลเท่าไรก็ไม่ได้เรื่องว่าอยู่ที่ไหน เข้าชมได้หรือไม่ เวลาใด เวลาที่ไปก็มีไม่มากจึงไม่ได้ชมในที่สุด หลังจากนั้นไปตูรินอีกหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยมีเวลามากพอ และไม่เคยพบข้อมูลชัดเจนเลย จนในที่สุดก็เลิกล้มความตั้งใจและเกือบจะลืมๆไปแล้วด้วยซ้ำ แต่.....

มีเมืองอยู่ไม่กี่เมืองในโลกนี้ ที่ฉันเคยไปมาแล้วต้องอึ้งตะลึงงันกับตำแหน่งที่ตั้งของเมือง ตรงที่ว่าไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงไหนของใจกลางเมืองก็สามารถเห็นเทือกเขาสูงเสียดฟ้าล้อมกอดกระชับแน่นเหมือนกับเมืองนั้นถูกซุกซ่อนปิดเร้นอยู่ในหุบเขา โดยที่มีทางลับเข้าออกสู่ภายนอกซ่อนเอาไว้ และเมื่อได้ก้าวเข้าไปถึงในเมือง Innsbruck ความรู้สึกนั้นก็กลับมาทันที

ปี 1988 ระหว่างปิดเทอมมหาวิทยาลัยปีหนึ่งขึ้นปีสอง ฉันได้ไปเรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนที่เมืองออกซ์ฟอร์ดประเทศอังกฤษ ช่วงวัยรุ่นฉันฟังเพลงฝรั่งเยอะมากและติดตามเอาจริงเอาจัง ยุค 80s คือยุคที่เพลงป็อปเบ่งบานและสวยงามอย่างไม่มียุคใดเหมือน โดยเฉพาะป๊อปฝั่งอังกฤษนั้นเฟื่องฟูเสนาะหูอย่างที่สุด การที่ได้ไปอยู่อังกฤษในช่วงกลางศตวรรษ 80s นั้นจึงเป็นความสุขและเป็นโชคดีที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของฉัน ที่ได้ซึมซับดนตรีคุณภาพและเป็นพื้นฐานที่ติดตัวมาตลอด และโชคสองชั้นที่ได้มาในฤดูร้อนปี 1988 นั้นก็คือการได้ไปชมคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในโลกที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้จนทุกวันนี้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ชีวิตนี้ฉันมาเบลเยี่ยมกี่ครั้งแล้วก็นับไม่ถูก แต่ทุกครั้งที่มาก็จะเป็นการเยี่ยมบ้านเยี่ยมญาติ ไม่ค่อยมีกิจกรรมท่องเที่ยวเท่าไหร่ ทริปกลับบ้านปีใหม่ปีนี้ตอนที่ขับรถผ่านเมือง Leuven อยู่ดีๆฉันก็เอ่ยปากขึ้นมากับสามีว่า นี่เมืองนี้ที่ยูเรียนมหาวิทยาลัยจนจบมาน่ะ ได้ข่าวว่ามันมีสถาปัตยกรรมสวยงามน่าชมพอควร ไอไม่เคยมาเลย พามาหน่อยสิ ปรากฏว่าสามีเกิดตื่นเต้นไปด้วย บอกว่าจริงด้วยฉันไม่ได้กลับมาเยี่ยมเมืองมหาวิทยาลัยนี้มาเกือบ 30 ปีแล้ว แล้วก็ดำริว่าจะพาฉันมาแกะรอยสถานที่ๆเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ ดังนั้นเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมาฉันจึงมีไกด์ท้องถิ่นตัวจริงพาไปเดินชมเมือง Leuven สบายๆ

Aveiro เป็นเมืองเล็กทางตะวันตกเฉียงเหนือของโปรตุเกส และได้ฉายาว่าเป็นเวนิสแห่งโปรตุเกสก็เพราะว่าอยู่ติดทะเลและมีคลองเลาะลัดพาดผ่านไปมาในเมืองคล้ายกัน มีเรือนั่งทัวร์ชมเมืองจากทางคลองได้เหมือนกัน จะว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวก็ได้แต่นักท่องเที่ยวก็ยังไม่มากมาย เที่ยวได้กระชับไม่เหนื่อยและไม่วุ่นวายเกินไป

อยู่ดีๆมีทริปงอกให้ได้ไปนอนเล่นที่ทะเลสาบ Como หนึ่งคืน ไหนๆก็ไปมาหลายครั้งแล้ว คราวนี้ไปชมอะไรที่ไม่เคยไปดีกว่า เช่น หมู่บ้าน Torno เมือง Lecco พร้อมไปหาอะไรอร่อยๆทาน และไปเที่ยวซ้ำที่หมู่บ้าน Bellagio อันโด่งดัง

แฟนพันธุ์แท้แวมไพร์ Twilight เชิญทางนี้ วันนี้เที่ยวเหนือฟ้าจะพาไปเที่ยวเมืองของราชวงศ์ผีดูดเลือด! หลายปีก่อนนิยายและภาพยนตร์เรื่อง Twilight ดังสะเทือนโลก ในภาคสุดท้าย Breaking Dawn มีฉากสำคัญที่เกิดขึ้นในเมืองๆหนึ่งซึ่งผู้ปกครองจักรวรรดิแวมไพร์คือตระกูล Volturi อาศัยอยู่ พระเอกถูกพวกโวลตูรี่จับมาเพื่อจะพิพากษาลงทันฑ์และนางเอกกับพี่น้องตามมาช่วยที่นี่  ว่ากันว่าพวกโวลตูรี่อาศัยปะปนอยู่กับผู้คนที่เมืองนี้มาเป็นพันปีแล้วโดยไม่มีใครรู้  อ่านแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าเมืองนี้อยู่ที่ไหนกันนะของอิตาลี และมีจริงหรือไม่ คำตอบคือเมืองนั้นมีจริง Volterra ในแคว้นทัสคานี่คือเมืองนั้นนั่นเอง

คงไม่มีใครไม่เห็นด้วยว่าอิตาลีนั้นสวยทุกซอกทุกมุมสวยทุกเมืองไม่ว่าจะเมืองเล็กหรือเมืองใหญ่แต่ละคนอาจจะมีเมืองโปรดในอิตาลีที่ต่างกันไปคนชอบทะเลอาจชอบ Positano คนชอบศิลปะอาจชอบ Florence คนชอบธรรมชาติอาจเลือก Dolomite แต่สำหรับฉันสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมมาก่อนดังนั้นเมืองอิตาลีเมืองโปรดอันดับหนึ่งนั้นคือนี่เลย Siena ในแคว้น Tuscany ที่ถือว่าสวยงามที่สุดในอิตาลีนั่นเอง