เข้มข้นล้นเปี่ยมที่ Jerusalem เมืองโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ของ 3 ศาสนาในแห่งเดียว
Jerusalem คือเมืองศักดิ์สิทธิ์สุดยอดของ 3 ศาสนา คือ ยิว อิสลาม และคริสเตียนและเป็นเมืองมรดกโลกโดย UNESCO
เรื่องราวของเยรูซาเล็มนั้นมากมายเข้มข้นยิ่งนัก ตัวเมืองเก่าล้อมอยู่ในกำแพงเมืองซึ่งมีพื้นที่เพียง 1 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น แต่กลับมีสถานที่สำคัญของทั้ง 3 ศาสนาอัดแน่นอยู่ ยังไม่พอ เยรูซาเล็มยังถูกแย่งกันอีกระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ด้วยความสำคัญของเมืองโบราณนี้ต่อศาสนาของประเทศทั้งสอง ทั้ง 2 ประเทศจึงต่างประกาศแต่งตั้งให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของตัว แล้วยังมีการเมืองยุคใหม่เรื่องดินแดน West Bank และฉนวนกาซ่ากันอีก ตุงนังมาก
แกะรอยหาภาพวาดของ Banksy ศิลปินจอมขบถ บนกำแพงรอบดินแดนศักดิ์สิทธิ์ Bethlehem
สายอาร์ต สายเคลื่อนไหวเพื่อมนุษยชาติและสังคม สายการเมือง เชิญทางนี้ เที่ยวเหนือฟ้าจะพาไป Bethlehem ที่ Palestine เพื่อชมอะไรที่ตะลึงตึงตัง และโดนใจอย่างแรง มาอิสราเอลคราวนี้ฉันมี Mission หนึ่งอย่าง คือจะไปแกะรอยตามล่าหาภาพวาดบนกำแพง Separation Wall ของศิลปินนิรนาม Banksy กันที่ Bethlehem นั่นเอง Banksy คือใคร แล้วเขามาวาดภาพอะไรที่กำแพงแบ่งแยกดินแดนอิสราเอล-ปาเลสไตน์นี่
Tel Aviv เมืองเก่าที่มาแรงด้วย Modern Culture สมัยใหม่ในเวลานี้
ฉันได้ยินคนพูดให้ฟังหลายครั้งแล้วว่า Tel Aviv ได้เติบโตเปลี่ยนแปลงขึ้นมาเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมชีวิตยุคใหม่ มี Modern culture ที่มาแรงที่สุดเมืองหนึ่งในตะวันออกกลาง ไม่ได้หมายถึงเมืองไฮเทคหรูระยับเงินทุ่มแบบดูไบหรือกาตาร์ แต่หมายถึงเมืองที่เคยเป็นเมืองเก่าแต่ผลัดใบออกและแตกหน่อออกมาเป็นต้นใหม่ เต็มไปด้วยความฮิปเก๋ ดีไซน์โฮเทล ร้านอาหารแบบโมเดิร์นควิซีน บาร์เปรี้ยว และคนรุ่นใหม่ที่รักศิลปะและงานดีไซน์ คราวนี้หละจะได้ไปดูด้วยตาตัวเอง
Georgia ลูกครึ่งแสนสวยที่ต้องตกหลุมรัก
จอร์เจียเป็นประเทศเกิดใหม่ที่เคยอยู่หลังม่านเหล็กของรัสเซียมาก่อน จึงมีจริตเป็นฝรั่ง แต่ด้วยภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ติดกับเทือกเขา Caucasus อันถือว่าเป็นแนวแบ่งทวีประหว่างยุโรปและเอเชีย จอร์เจียจึงนับว่าเป็นประเทศในทวีปเอเชียอย่างเป็นทางการ จากประเทศที่แทบไม่มีใครรู้จัก กลายมาเป็นจุดหมายที่คนไทยมากมายพูดถึงกันในตอนนี้ก็เพราะเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือพาสสปอร์ตไทยเข้าไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ก็ดูเหมือนความกระจ่างเกี่ยวกับจอร์เจียก็ยังมีไม่มาก หลายคนถามกันว่าน่าไปไหม ได้ข่าวว่าสวย ราคาถูก ฉันได้ไปเยือนมาถึงสิบวันจึงอยากมาเล่าประสบการณ์ในประเทศลูกครึ่งนี้ให้ฟัง
เที่ยวราชาสถานแบบมหารานี ดูเพชรดูวังนั่งๆนอนๆ
เที่ยวเหนือฟ้าพาแม่เที่ยวราชาสถาน ชมชัยปุระและอุทัยปุระแบบเที่ยวง่าย เดินน้อย ถ่ายรูปสวย กินสวย อยู่หรู ช้อปเพชรพลอยเป็นหลัก เหมาะกับผู้ใหญ่ สบายๆแบบทริปมหารานีอย่างแท้จริง พร้อมโพยช้อปโพยกิน
India Makes Me Nuts ถั่วบ้าจะฆ่าฉันที่อินเดีย
มันเริ่มขึ้นที่ “ถั่ว” แต่จบลงที่ฉันเกือบบ้า(แบบยังพอขำได้อยู่) เรื่องของเรื่องคือว่า จู่ๆฉันก็เกิดอาการแพ้ถั่วขึ้นมาเมื่ออายุสามสิบกว่า แล้วความรุนแรงนี่คือจากศูนย์ คือกินถั่วได้ไม่เป็นอะไร อยู่ดีๆพอจะแพ้ขึ้นมาก็เป็นระดับเกือบตายเลยในครั้งเดียว หลังจากที่รู้ตัวว่าแพ้ถั่วไม่นานฉันก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ที่ต้องเดินทางไปอินเดียบ่อย รู้ๆกันอยู่ว่าอาหารแขกใส่ถั่วเยอะขนาดไหน แต่ที่น่ากลัวกว่าคือแขกไม่รู้จักไม่เคยได้ยินโรคแพ้ถั่ว ไม่เข้าใจว่ามันเป็นการแพ้อาหารที่อันตรายรุนแรงที่สุดในบรรดาแพ้อาหารทั้งปวง
India Makes me Cry (Part III) น้ำตาหลั่ง…ที่อินเดีย (ภาค 3)
สมัยเวลาไปทำงานอินเดียอย่างอุตลุด การจัดการเรื่องต่างๆสำหรับการเดินทาง การประชุม และนัดหมาย ต้องเตรียมล่วงหน้าไว้อย่างดีเลิศเป๊ะๆๆเพราะจะพลาดและเสียเวลาไม่ได้เลย ครั้งหนึ่งฉันต้องวิ่งรอกประชุมหลายที่อย่างแฮ่กมากจากมุมไบต้องจับเครื่องไปประชุมต่ออีกหนึ่งวันที่เดลี เครื่องออกเช้าแปดโมงต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า เครื่องจะลงเก้าโมงต้องวิ่งๆๆๆๆไปเข้าห้องประชุมให้ทันสิบโมง เวลาที่มีเฉียดฉิวมาก เครื่องลงประตูเปิดปุ๊บฉันจึงโกยแน่บวิ่งๆๆๆแหวกบรรดาแขกออกมา ถึงด้านนอกเอ๊ะทำไมไม่มีคนขับรถมายืนถือป้ายชื่อรอรับ
India Makes me Cry (Part II) น้ำตาหลั่ง…ที่อินเดีย (ภาค 2)
พอปี 2548 ชะตาชีวิตที่จะต้องหลั่งน้ำตาอีกและเกี่ยวข้องกับอินเดียอย่างเข้มข้นก็เริ่มขึ้น ฉันได้รับมอบหมายงานให้เป็นผู้อำนวยการดูแลภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่ว่านายอินเดียและทีมพัฒนาสินค้านั่งประจำอยู่ที่เมืองมุมไบ ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเดินทางไปทำงานอินเดียเฉลี่ยแล้วทุกเดือน บางทีก็บ่อยกว่านั้น ฉันเริ่มคุ้นเคยกับอินเดีย ทั้งผู้คน สถานที่ อาหารวัฒนธรรม ทางหนีทีไล่ และกลยุทธการต่อรองจัดการแขก จนไปมาได้อย่างสบายๆเหมือนบ้านหลังที่สอง
India Makes me Cry (Part I) น้ำตาหลั่ง…ที่อินเดีย (ภาค 1)
ฉันก็เหมือนคนไทยทั่วไปที่โตขึ้นมากับความคิดที่ไม่ค่อยปลื้มนักกับอินเดีย พูดถึงอินเดียก็มีแต่คนบ่นว่าสกปรก แขกพูดเร็วฟังไม่รู้เรื่อง ตัวเหม็น บ้านเมืองเหม็น อาหารเหม็นเครื่องเทศกินไม่ได้ ไม่อยากไป ไม่ไปเด็ดขาด หลายปีผ่านไปได้คำสั่งจากนายว่าให้ไปเมืองมุมไบที่อินเดียอีกเป็นครั้งที่สอง และครั้งนี้แหละที่อินเดียทำให้ฉันหลั่งน้ำตาเป็นครั้งแรก
Back Through Time ที่ลี่เจียง
“เสี่ยวเอ้อ ขอน้ำชาหนึ่งจอก ข้าเดินทางทางมาไกลหลายพันลี้ เหนื่อยเหลือเกิน”
“ขอรับท่านจอมยุทธ”
“ท่านจอมยุทธ ระวังข้างหลัง”.... เช้ง โช้งเช้ง เช้ง
ภาพในจินตนาการของจอมยุทธผมยาวต่อสู้กันแล้วกระโดดตัวเบาไปตามหลังคาเก๋งจีน คือสิ่งเดียวเท่านั้นที่ขาดไปจากภาพเมืองเก่าลี่เจียงที่อยู่ตรงหน้า ส่วนสิ่งที่เกินมา ก็คือบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินตามกันเป็นสายเลือกซื้อของตามร้านรวงสองฝั่ง จนแน่นถนนแคบๆที่ปูด้วยหินโบราณอายุ 800 กว่าปี