Monday, May 20, 2024

ฉันได้ยินคนพูดให้ฟังหลายครั้งแล้วว่า Tel Aviv ได้เติบโตเปลี่ยนแปลงขึ้นมาเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมชีวิตยุคใหม่ มี Modern culture ที่มาแรงที่สุดเมืองหนึ่งในตะวันออกกลาง ไม่ได้หมายถึงเมืองไฮเทคหรูระยับเงินทุ่มแบบดูไบหรือกาตาร์ แต่หมายถึงเมืองที่เคยเป็นเมืองเก่าแต่ผลัดใบออกและแตกหน่อออกมาเป็นต้นใหม่ เต็มไปด้วยความฮิปเก๋ ดีไซน์โฮเทล ร้านอาหารแบบโมเดิร์นควิซีน บาร์เปรี้ยว และคนรุ่นใหม่ที่รักศิลปะและงานดีไซน์ คราวนี้หละจะได้ไปดูด้วยตาตัวเอง

Jerusalem คือเมืองศักดิ์สิทธิ์สุดยอดของ 3 ศาสนา คือ ยิว อิสลาม และคริสเตียนและเป็นเมืองมรดกโลกโดย UNESCO เรื่องราวของเยรูซาเล็มนั้นมากมายเข้มข้นยิ่งนัก ตัวเมืองเก่าล้อมอยู่ในกำแพงเมืองซึ่งมีพื้นที่เพียง 1 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น แต่กลับมีสถานที่สำคัญของทั้ง 3 ศาสนาอัดแน่นอยู่ ยังไม่พอ เยรูซาเล็มยังถูกแย่งกันอีกระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ด้วยความสำคัญของเมืองโบราณนี้ต่อศาสนาของประเทศทั้งสอง ทั้ง 2 ประเทศจึงต่างประกาศแต่งตั้งให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของตัว แล้วยังมีการเมืองยุคใหม่เรื่องดินแดน West Bank และฉนวนกาซ่ากันอีก ตุงนังมาก

วันนี้เป็นวันแห่งการเดินข้ามสะพานแขวนและ Hiking! วันแห่ง Adventure ที่แท้จริง เรามีแผนเดินบนเขาวันนี้เป็นเวลา 4 ชั่วโมง แต่ก่อนจะเริ่มเดินต้องข้ามสะพานแขวนแห่งแรก คือ Hussaini Suspension Bridge เสียก่อน เพราะเราจะต้องไปเดินอีกฝั่งของแม่น้ำ Hunza สะพานแขวนแห่งนี้มีความยาวถึง 250 เมตร พื้นเป็นแผ่นไม้กระดานวางบนลวดสลิง โดยไม่ได้วางชิดกัน แต่ละแผ่นเว้นห่างๆ มองทะลุลงไปเห็นแม่น้ำข้างล่างอยู่ลิบลิ่วเหมือนแกล้งให้หวาดเสียวเล่นอย่างนั้นแหละ แถมยังแกว่งโยนอีก ฉันต้องจับลวดที่ราวไว้แน่นแล้วเดินไปทีละแผ่นๆ อย่างตั้งใจมากๆ

จอร์เจียเป็นประเทศเกิดใหม่ที่เคยอยู่หลังม่านเหล็กของรัสเซียมาก่อน จึงมีจริตเป็นฝรั่ง แต่ด้วยภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ติดกับเทือกเขา Caucasus อันถือว่าเป็นแนวแบ่งทวีประหว่างยุโรปและเอเชีย จอร์เจียจึงนับว่าเป็นประเทศในทวีปเอเชียอย่างเป็นทางการ จากประเทศที่แทบไม่มีใครรู้จัก กลายมาเป็นจุดหมายที่คนไทยมากมายพูดถึงกันในตอนนี้ก็เพราะเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือพาสสปอร์ตไทยเข้าไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ก็ดูเหมือนความกระจ่างเกี่ยวกับจอร์เจียก็ยังมีไม่มาก หลายคนถามกันว่าน่าไปไหม ได้ข่าวว่าสวย ราคาถูก ฉันได้ไปเยือนมาถึงสิบวันจึงอยากมาเล่าประสบการณ์ในประเทศลูกครึ่งนี้ให้ฟัง

เที่ยวเหนือฟ้าพาแม่เที่ยวราชาสถาน ชมชัยปุระและอุทัยปุระแบบเที่ยวง่าย เดินน้อย ถ่ายรูปสวย กินสวย อยู่หรู ช้อปเพชรพลอยเป็นหลัก เหมาะกับผู้ใหญ่ สบายๆแบบทริปมหารานีอย่างแท้จริง พร้อมโพยช้อปโพยกิน

พระเยซูประสูติที่เมือง Bethlehem ใน Palestine เราก็ต้องมาชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จากเยรูซาเล็มขับรถมาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี แม้จะต้องข้ามพรมแดนจากอิสราเอลเข้าปาเลสไตน์ก็ไม่จำเป็นต้องมีวีซ่า สถานที่ณ.ตรงจุดที่ประสูติของพระเยซูนั้นปัจจุบันคือโบสถ์ The Church of Nativity ประตูเข้าโบสถ์เป็นช่องเล็กๆในกำแพง ต้องก้มมุดเข้าไป แปลกดี ข้างในกลับกว้างใหญ่มาก ไม่ได้สวยงามชวนตะลึงแต่ก็ไม่มีใครสนใจ ทุกคนมุ่งหน้าเดินตามกันเข้าไปด้านในสุด เข้าคิวกันเพื่อมุดลงไปในช่องที่นำสู่ห้องใต้ดิน ด้านล่างนั้นคือจุดที่พระเยซูประสูตินั่นเอง

ประเทศหนึ่งที่ฉันใฝ่ฝันอยากจะมาเยือนมากๆ แต่ก็ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะตัดสินใจมา กว่าจะพร้อม ด้วยความกลัวลำบาก กลัวเรื่องความปลอดภัย และในที่สุดเมื่อปัจจัยหลายอย่างลงตัวจึงได้มา และก็อยากกลับไปอีก เพราะทริป 11 วันที่ว่าลุยเจาะลึกแล้วนั้น ก็ยังได้ไปเห็นไม่เท่าที่อยากเห็น ด้วยประเทศนี้นั้นช่างมีความหลากหลาย และมีพื้นที่กว้างใหญ่ที่ไม่มีทางชื่นชมได้ครบถ้วนเลยไม่กี่วัน และนั่นก็คือปากีสถานนั่นเอง

เช้าตรู่เมื่อหมอกยังไม่จางดี  ที่ร้านกาแฟสดในปั๊มน้ำมันบนทางหลวงหมายเลขหนึ่ง  เลยตัวเมืองกำแพงเพชรมาไม่ไกล  ลุงชงกาแฟไปพลางเมียงมองมายังรถโฟร์วีลไดรฟว์ของเราที่บรรทุกข้าวของเครื่องใช้และเสบียงเพียบ  แล้วถามด้วยเสียงเปี่ยมความสงสัยว่า “จะไปเที่ยวไหน  ของเต็มรถขนาดนี้” คนขับมือหนึ่งของฉันตอบลงเสียงหนักแน่นหากอมยิ้มว่า “บอกไปก็ไม่เชื่อ” ลุงอึ้งไปนิดหนึ่งด้วยคำตอบที่คาดไม่ถึง  และคงประมาณไม่ถูกด้วยว่า  คำตอบนั้นเป็นมุกหรือเปล่า  แต่ความอยากรู้คงมีมากกว่า  ลุงจึงแหย่หาคำตอบต่อ “เชื่อ...บอกมาเถ้อะ....” “จะขับรถไป...ทิเบต....”

สายอาร์ต สายเคลื่อนไหวเพื่อมนุษยชาติและสังคม สายการเมือง เชิญทางนี้ เที่ยวเหนือฟ้าจะพาไป Bethlehem ที่ Palestine เพื่อชมอะไรที่ตะลึงตึงตัง และโดนใจอย่างแรง มาอิสราเอลคราวนี้ฉันมี Mission หนึ่งอย่าง คือจะไปแกะรอยตามล่าหาภาพวาดบนกำแพง Separation Wall ของศิลปินนิรนาม Banksy กันที่ Bethlehem นั่นเอง Banksy คือใคร แล้วเขามาวาดภาพอะไรที่กำแพงแบ่งแยกดินแดนอิสราเอล-ปาเลสไตน์นี่

ฉันก็เหมือนคนไทยทั่วไปที่โตขึ้นมากับความคิดที่ไม่ค่อยปลื้มนักกับอินเดีย พูดถึงอินเดียก็มีแต่คนบ่นว่าสกปรก แขกพูดเร็วฟังไม่รู้เรื่อง ตัวเหม็น บ้านเมืองเหม็น อาหารเหม็นเครื่องเทศกินไม่ได้ ไม่อยากไป ไม่ไปเด็ดขาด หลายปีผ่านไปได้คำสั่งจากนายว่าให้ไปเมืองมุมไบที่อินเดียอีกเป็นครั้งที่สอง และครั้งนี้แหละที่อินเดียทำให้ฉันหลั่งน้ำตาเป็นครั้งแรก