Sunday, May 19, 2024

Latin America

ท่องเที่ยวในละตินอเมิรกา

เม็กซิโกมีเมืองที่เป็นเมืองมรดกโลก UNESCO อยู่กว่าสิบเมือง นับว่าเยอะมากๆ หลายเมืองอยู่ในเขต Colonial Heartland ใจกลางประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมยุคโคโลเนียลที่ฉันหลงใหล ในเขตนี้ เมืองที่ฉันไปชมมาก็คือ San Miguel de Allende, Guanajuato และ Querétaroเมืองโคโลเนียลเล็กๆสีแสบในละตินอเมริกานี่แหละ เป็น“ที่”ของเหนือฟ้าแท้ๆ ชนิดที่ว่า ไม่มีการเดินทางไปเมืองแบบไหนที่จะทำให้ฉันมีความสุข ลงตัว เต็มอิ่ม ได้อย่างนี้อีกแล้ว

คาริย็อคค่า (Carioca) หรือคนเมืองริโอภูมิใจอย่างเหลือเกินว่า  ริโอเดอจาเนโรคือเมืองที่สวยที่สุดในโลก  สวยจนมีคำกล่าวว่า  ริโอเป็นเมืองของพระเจ้า  จะเป็นด้วยแรงศรัทธาในพระเจ้าของชาวเมืองแห่งประเทศที่มีพลเมืองคาธอลิกมากที่สุดในโลกนี้  หรือด้วยความภูมิใจในความงามของริโอ  หรือจะทั้งสองอย่างรวมกันก็ตามแต่  เหนือยอดเขา Corcovado ที่สูงเด่นเห็นได้จากทุกมุมเมือง  คือความในใจนี้ที่คาริย็อคค่าประกาศให้โลกรู้  รูปปั้นพระเยซู Christ the Redeemer สูง 38 เมตร กางพระหัตถ์ออกตรงเป็นรูปไม้กางเขน  ก้มพระพักตร์อันสงบและปรานีลงน้อยๆ  ประหนึ่งจะเฝ้าปกปักรักษาดูแลเมืองริโอและคาริย็อคค่าทุกคนไว้ในอ้อมอกไม่ว่าวันหรือคืน  และแรงศรัทธานี้ยังได้ประกาศตัวเป็นครั้งที่สอง  เมื่อ Christ the Redeemer ได้ถูกรับรองเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เมื่อปี 2007

Tulum ชื่อนี้หมายมั่นปั้นมือเอาไว้นับ 10 ปีแล้วว่าจะต้องมาดูให้รู้ให้เห็นให้ได้ ก็เขาว่ามันเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลของเม็กซิโกที่เกิดใหม่ จากหาดดิบๆไม่มีอะไร กลายมาเป็นศูนย์รวมของความฮิปเก๋ชนิดที่เอลิสต์ทั้งหลายต้องมากัน

ที่นอกเมืองเม็กซิโกซิตี้นี้มีจุดท่องเที่ยวอยู่จุดหนึ่งซึ่งเหมือนกับว่านักท่องเที่ยวทุกคนต้องมา ปกติที่แบบนี้ฉันจะไม่ตื่นเต้นนัก นึกว่าคงจะเหมือนสถานที่ดักนักท่องเที่ยวทั่วไป และอารมณ์น่าจะคล้ายกับตลาดน้ำดำเนินสะดวกอะไรประมาณนั้น จะดื่นๆปลอมๆหรือเปล่า แต่มาถึงแล้วก็ต้องไปดูให้เห็นกับตา ปรากฎว่ามันดีเกินคาด!นั่นคือที่ๆชื่อว่า Xochimilco นั่นเอง มันคือการไปนั่งเรือท้องแบนสีสันแซ่บแสบทรวงให้คนถ่อไปในลำคลอง ดูคนปาร์ตี้เปิดเพลงดื่มกินกันไปในเรือ ทั้งคลองเต็มไปด้วยเรือสีแสบสดใส ได้อารมณ์ Mexico มากๆ

การมาเที่ยวคอสตาริก้า คือการเที่ยวธรรมชาติล้วนๆ ไม่ว่าจะลุยป่า ปีนเขา ชมสัตว์ เล่นน้ำตก ปีนภูเขาไฟ นอนริมหาด ทำโยคะ และมีกิจกรรมตื่นเต้นใกล้ชิดธรรมชาติให้ทำเช่น ล่องแก่ง Zip lining สโลแกนของประเทศนี้คือ Pura Vida หรือ Pure life จึงเหมาะสมเป็นที่สุด

Caracol ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูนักท่องเที่ยวบ้านเรานัก แต่มันคืออาณาจักรโบราณของอารยธรรมมายาที่เคยรุ่งเรืองและมีความสำคัญสูงสุดทีเดียว อาณาบริเวณกินพื้นที่ถึง 200 ตารางกิโลเมตร เคยมีพลเมืองอาศัยถึงหนึ่งแสนคน ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่กว่า Belize City เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเบลิซในปัจจุบันเสียอีก!

นิคารากัวเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงกันมากนักในแง่การท่องเที่ยว แต่ประเทศเล็กๆที่มีพลเมืองเพียง 6 ล้านคนนี้ก็เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง เมื่อครั้งที่ฉันวางแผนไปเที่ยวประเทศ Costa Rica ก็เกือบจะข้ามนิคารากัวไปแล้ว แต่พอเข้าไปศึกษาดูแล้วก็บอกตัวเองเลยว่า นี่แหละ ประเทศแบบเหนือฟ้าของฉัน! ฉายาของประเทศนี้ก็คือ "The land of lakes and volcanoes"

อุรุกวัยเป็นประเทศไม่ใหญ่ มีพลเมืองเพียง 3.5 ล้านคน พลเมืองครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหลวง จึงเท่ากับเมืองมอนเตวิดีโอนี้มีประชากรประมาณแค่เพียง 1.7 ล้านคนเท่านั้นเอง นับว่ามีขนาดกะทัดรัดใช้เวลาไม่มากก็เที่ยวได้ทั่ว ฉันเลือกพักโรงแรมย้อนยุคในตัวเมืองเก่าเลยจะได้เดินเที่ยวสำรวจได้สะดวก

ตอนที่ฉันไป Antarctica ทวีปแห่งขั้วโลกใต้นั้น เราต้องบินจากเมืองบัวโนสไอเรสที่อาร์เจนตินาไปขึ้นเรือ ที่เมือง Ushuaia ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ที่สุดของโลก อันมีสโลแกนว่า Fin del Mundo หรือ End of the world

ฉันไป Dominican Republic ประเทศบนเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในแคริบเบียน และเป็นประเทศที่ใหญ่อันดับ 3 มาสิบกว่าวัน ใครๆก็ถามว่า ตกลงน่าไปไหม ชอบเหมือนประเทศในละตินอเมริกาอื่นๆหรือเปล่า จึงขอสรุปรวมรีวิวเป็นข้อๆให้เลย