สรุปรีวิวเป็นข้อๆ Dominican Republic น่าไปไหม
ฉันไป Dominican Republic ประเทศบนเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในแคริบเบียน และเป็นประเทศที่ใหญ่อันดับ 3 มาสิบกว่าวัน ใครๆก็ถามว่า ตกลงน่าไปไหม ชอบเหมือนประเทศในละตินอเมริกาอื่นๆหรือเปล่า จึงขอสรุปรวมรีวิวเป็นข้อๆให้เลย
Oaxaca อ่านว่า….
Oaxaca อ่านว่า “วาฮะค่ะ” เป็นเมืองหนึ่งในเม็กซิโกที่ฉันฝันใฝ่มาตั้งแต่ 20กว่าปีที่แล้วว่าอยากจะมาให้ได้ เหตุผลตอนแรกก็ไม่มีสาระอะไรมากไปกว่าชื่อของเมืองที่ฟังดูเอ็กโซติกดี ฟังแลดูเป็นอินเดียน ซึ่งก็เป็นจริงดังนั้นเพราะนี่คือเมืองของเม็กซิโกซึ่งมีพลเมืองพื้นเมืองอยู่มากที่สุดเมืองหนึ่ง
Montevideo เมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของอเมริกาใต้
อุรุกวัยเป็นประเทศไม่ใหญ่ มีพลเมืองเพียง 3.5 ล้านคน พลเมืองครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหลวง จึงเท่ากับเมืองมอนเตวิดีโอนี้มีประชากรประมาณแค่เพียง 1.7 ล้านคนเท่านั้นเอง นับว่ามีขนาดกะทัดรัดใช้เวลาไม่มากก็เที่ยวได้ทั่ว ฉันเลือกพักโรงแรมย้อนยุคในตัวเมืองเก่าเลยจะได้เดินเที่ยวสำรวจได้สะดวก
Guanajuato, San Miguel de Allende และ Querétaro สามเมืองมรดกโลกของเม็กซิโก
เม็กซิโกมีเมืองที่เป็นเมืองมรดกโลก UNESCO อยู่กว่าสิบเมือง นับว่าเยอะมากๆ หลายเมืองอยู่ในเขต Colonial Heartland ใจกลางประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมยุคโคโลเนียลที่ฉันหลงใหล ในเขตนี้ เมืองที่ฉันไปชมมาก็คือ San Miguel de Allende, Guanajuato และ Querétaroเมืองโคโลเนียลเล็กๆสีแสบในละตินอเมริกานี่แหละ เป็น“ที่”ของเหนือฟ้าแท้ๆ ชนิดที่ว่า ไม่มีการเดินทางไปเมืองแบบไหนที่จะทำให้ฉันมีความสุข ลงตัว เต็มอิ่ม ได้อย่างนี้อีกแล้ว
ตากอากาศเก๋ชิค ที่ Tulum แบบ Bare Foot Luxury
Tulum ชื่อนี้หมายมั่นปั้นมือเอาไว้นับ 10 ปีแล้วว่าจะต้องมาดูให้รู้ให้เห็นให้ได้ ก็เขาว่ามันเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลของเม็กซิโกที่เกิดใหม่ จากหาดดิบๆไม่มีอะไร กลายมาเป็นศูนย์รวมของความฮิปเก๋ชนิดที่เอลิสต์ทั้งหลายต้องมากัน
Pura Vida ชีวิตอันบริสุทธ์ที่ Costa Rica
การมาเที่ยวคอสตาริก้า คือการเที่ยวธรรมชาติล้วนๆ ไม่ว่าจะลุยป่า ปีนเขา ชมสัตว์ เล่นน้ำตก ปีนภูเขาไฟ นอนริมหาด ทำโยคะ และมีกิจกรรมตื่นเต้นใกล้ชิดธรรมชาติให้ทำเช่น ล่องแก่ง Zip lining สโลแกนของประเทศนี้คือ Pura Vida หรือ Pure life จึงเหมาะสมเป็นที่สุด
Caracol ชมพีระมิด ซากอารยธรรมมายาที่ Belize
Caracol ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูนักท่องเที่ยวบ้านเรานัก แต่มันคืออาณาจักรโบราณของอารยธรรมมายาที่เคยรุ่งเรืองและมีความสำคัญสูงสุดทีเดียว อาณาบริเวณกินพื้นที่ถึง 200 ตารางกิโลเมตร เคยมีพลเมืองอาศัยถึงหนึ่งแสนคน ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่กว่า Belize City เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเบลิซในปัจจุบันเสียอีก!
Nicaragua ดินแดนแห่งทะเลสาบและภูเขาไฟ ที่ได้ไปแล้วต้องหลงรัก
นิคารากัวเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงกันมากนักในแง่การท่องเที่ยว แต่ประเทศเล็กๆที่มีพลเมืองเพียง 6 ล้านคนนี้ก็เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง เมื่อครั้งที่ฉันวางแผนไปเที่ยวประเทศ Costa Rica ก็เกือบจะข้ามนิคารากัวไปแล้ว แต่พอเข้าไปศึกษาดูแล้วก็บอกตัวเองเลยว่า นี่แหละ ประเทศแบบเหนือฟ้าของฉัน! ฉายาของประเทศนี้ก็คือ "The land of lakes and volcanoes"
Rapa Nui– Heaven is the Remotest Place ราปานุย เกาะที่ไกลที่สุดในโลก
“Easter Island” ชื่อที่กัปตันชาวดัทช์ตั้งเนื่องจากแล่นเรือมาขึ้นฝั่งฉลองวันอีสเตอร์พอดีในปี 1722 หรือที่ชาวเกาะเรียกในภาษาถิ่นว่า “Rapa Nui” หรือ “Isla de Pascua” ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะที่ไกลปืนเที่ยงที่สุดในโลก หรือฝรั่งให้สมญาว่าเป็น The Remotest Island ราปานุยจึงเสมือนเกาะที่ตัดขาดจากโลกภายนอก แม้ในปัจจุบันก็ยังมีคนไม่มากที่เคยไปเยือนราปานุย เพราะทั้งไกลและแพงกว่าจะไปถึง ดังนั้นการบุกบั่นดั้นด้นไปถึงราปานุยจึงเป็นอีกหนึ่งฝันอันกลายเป็นจริงของฉัน
และที่พิเศษถูกจริตฉันเป็นที่สุดก็เพราะราปานุยเป็นเกาะที่มีความลับที่ยังไม่ถูกไขออก ด้วยมีหุ่นหินรูปคนครึ่งตัวขนาดมหึมาสูงเฉลี่ย 6 เมตรยืนเรียงรายริมฝั่งทะเลอย่างไม่มีที่ใดเหมือน เรียกว่า “โมไอ” (Moai) ไม่มีใครรู้ว่าใครทำขึ้น ทำไมมีมากมายถึงร่วม 1000 ตัวบนเกาะ
Extravaganza – Rio de Janeiro!
คาริย็อคค่า (Carioca) หรือคนเมืองริโอภูมิใจอย่างเหลือเกินว่า ริโอเดอจาเนโรคือเมืองที่สวยที่สุดในโลก สวยจนมีคำกล่าวว่า ริโอเป็นเมืองของพระเจ้า จะเป็นด้วยแรงศรัทธาในพระเจ้าของชาวเมืองแห่งประเทศที่มีพลเมืองคาธอลิกมากที่สุดในโลกนี้ หรือด้วยความภูมิใจในความงามของริโอ หรือจะทั้งสองอย่างรวมกันก็ตามแต่ เหนือยอดเขา Corcovado ที่สูงเด่นเห็นได้จากทุกมุมเมือง คือความในใจนี้ที่คาริย็อคค่าประกาศให้โลกรู้ รูปปั้นพระเยซู Christ the Redeemer สูง 38 เมตร กางพระหัตถ์ออกตรงเป็นรูปไม้กางเขน ก้มพระพักตร์อันสงบและปรานีลงน้อยๆ ประหนึ่งจะเฝ้าปกปักรักษาดูแลเมืองริโอและคาริย็อคค่าทุกคนไว้ในอ้อมอกไม่ว่าวันหรือคืน และแรงศรัทธานี้ยังได้ประกาศตัวเป็นครั้งที่สอง เมื่อ Christ the Redeemer ได้ถูกรับรองเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เมื่อปี 2007